‘ศิริกัญญา’ ย้ำตำแหน่งประธานสภาต้องเป็นของก้าวไกล เชื่อไม่กระทบเพื่อไทย
ศิริกัญญา รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ย้ำตำแหน่ง ประธานสภา ต้องเป็นของ ก้าวไกล เชื่อไม่กระทบความสัมพันธ์กับเพื่อไทย
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลหลังลงนามใน MOU โดยระบุว่า ได้รับการตอบรับในเชิงบวกทั้งจากพรรคร่วมรัฐบาลและประชาชน หลังมีความชัดเจนในเรื่องจุดยืนและนโยบายของพรรค ทาง ส.ว.มีความเข้าใจมากขึ้น
และยอมรับในหลักการที่จะโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี มากขึ้น แต่ยังคงเดินหน้าเจรจากับ ส.ว.เป็นรายบุคคลมากขึ้น เชื่อมั่นว่าจะได้เสียงมากพอที่จะโหวตให้นายพิธา เป็นนายกฯ นอกจากนี้ ยังเดินหน้าพูดคุยกับหน่วยงานต่าง ๆ สร้างความเชื่อมั่นนโยบายของก้าวไกล ที่เน้นเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างเป็นธรรม
ในส่วนโควตาตำแหน่งประธานสภาว่า พรรคก้าวไกลยืนยันความจำเป็นที่ต้องมีตำแหน่งนี้ไว้กับพรรคก้าวไกล เพราะนอกจากการใช้อำนาจฝ่ายบริหารแล้ว ยังมีอีก 3 วาระที่จะต้องได้ตำแหน่งประมุขในฝ่ายนิติบัญญัติเช่นเดียวกัน ทั้งผลักดันกฎหมายทั้ง 45 ฉบับของพรรค เพื่อให้ทำตามที่หาเสียงไว้ กฎหมายของพรรคการเมืองอื่น และกฎหมายจากประชาชน เพื่อให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว พร้อมระบุว่าพรรคที่มี ส.ส.มากเป็นอันดับ 1 จะขอตำแหน่งประธานสภา เพื่อเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติด้วยในเวลาเดียวกัน ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแผกอะไร เพราะมีวาระชัดเจนที่ต้องขับเคลื่อน
พร้อมยังแสดงตวามมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะอยู่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลต่อไป ไม่ว่าจะมีตำแหน่งประธานสภาหรือไม่ก็ตาม
“มีการพูดคุยกัน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเป็นใคร ในก้าวไกลมี ส.ส.หลายคนที่มีความเหมาะสม ไม่ใช่แค่เรื่องการควบคุมการประชุม แต่ยังมีประเด็นในการขับเคลื่อนฟื้นฟูประชาธิปไตยในฐานะประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ กำกับดูแลสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร”
“เราก็ต้องยืนยันว่า ในอดีตมีประธานสภาที่มีอายุน้อย ตรงนี้ไม่ใช่ประเด็น แต่ต้องให้โอกาส ไม่เช่นนั้นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นยาก ถ้าคิดแต่เรื่องอาวุโส” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว