หมอชลน่าน-ศิธา ปมติงมารยาทวันเซ็น MOU ลุ้นจบยังไง ? ก่อนตั้งรัฐบาล 66
หมอชลน่าน เผยปมต่อว่า ศิธา ไม่มีมารยาท ลุกถามกลางวงเซ็น MOU 8 พรรคร่วมรัฐบาล ชี้ถ้าเป็นคนนอกไม่ว่าเลย แต่พอฟังคำถามเรื่อง Advance MOU แล้ว รู้สึกไม่โอเคที่มาทำลายบรรยากาศ
วันที่ 24 พ.ค.2566 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาเคลียร์ประเด็นท่กำลังถูกจับตามีว่าความขัดแย้งกันเกิดขึ้นระหว่างพรรคร่มจัดตั้งรัฐบาลด้วยกนัเองอีกระลอกใหม่แล้วหรือไม่ โดยเฉพาะกับกรณีของ น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการอำนวยการและพัฒนาและเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทยกับฝั่งของหมอชลน่านเอง
ที่ก่อนหน้านี้ หมอชนน่าน ได้มีการกล่าวกับ หญิืงหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพัร ว่าฝากไปเตือนมารยาทกับ นายศิธา ให้ที เนื่องจากไม่พอใจสาเหตุคำถามบางอย่างในวันที่่ลงนามเซ็นบันทึกข้อตกลงฉบับประวัิตศาสตร์การเมืองไทยไแปด้วยกันไม่นาน
ล่าสุด วันนี้ เมื่อเจอนักข่าวจี้ประเด็นนี้อกครั้ง หมอชลน่านก็ให้ตอบกับสื่อมวลชนที่รอทำข่าวจำนวนมากว่า ปมต่อว่า ศิธา ไม่มีมารยาท เนื่องจากอีกฝ่ายลุกขึ้นมาสอบถามกลางวงเซ็นเอ็มโอยูร่วมกันของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งส่วนตัวถ้าเป็นคนนอกจะไม่ว่าเลย แต่พอฟังคำถามนี้ เรื่อง Advance MOU ปิดกั้นสืบทอดเผด็จการแล้ว ตัวเองรู้สึกไม่โอเคที่มีการมาทำลายบรรยากาศแบบนี้ เพราะศิธาก็คุยร่างดังกล่าวอยู่ด้วยกัน
ทั้งนี้ ในส่วนของทาง น.ต.ศิธา ทิวารี เองนั้นก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาฝากถึงเรื่องมารยาทของตัวเอง ทำให้จึงอยากขอชี้แจงดังนี้
เมื่อวานนี้ (22 พ.ค.66) ในการแถลงข่าวเซ็น MOU จัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ตนเองได้ตั้งคำถามไปยัง 8 พรรคการเมือง ว่า จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน ว่าจะยืนตัวตรงสู้กับกลไกที่เผด็จการฝังไว้ในบทเฉพาะกาล 5 ปีแรกของรัฐธรรมนูญ 2560 โดยกำหนดให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี ด้วยการเซ็น Advance MOU อีก 1 ฉบับ ระบุว่าจะทำงานร่วมกันตามฉันทานุมัติของประชาชนที่มีให้กับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย (หรือพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม) ไม่ว่าท่านจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านร่วมกันก็ตาม ได้หรือไม่”
ทั้งนี้ เนื่องจากการแถลงข่าวยืดเยื้อเกินเวลา ตนเองจึงบอกว่าจะตอบทั้ง 8 พรรค หรือจะตอบเฉพาะ 2 พรรคใหญ่ คือ พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย เพื่อไม่ให้เสียเวลาก็ได้ ซึ่ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้กดไมค์ตอบทันทีว่า เป็นไปได้ที่จะลงนามใน Advance MOU ร่วมกันในอนาคตอันใกล้ ส่วน นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ตอบ แต่ตอบคำถามที่นักข่าวฝากให้ตนเองถามให้ จึงได้ย้ำคำถามไปอีกครั้ง ก็ได้รับคำตอบจาก นายพิธา คนเดียว ส่วน นายแพทย์ชลน่าน ไม่ตอบเช่นเดิม
เมื่อถึงจุดนี้พอจะเข้าใจว่าคำถามของตน นายแพทย์ชลน่าน ไม่ได้ลืมที่จะตอบ แต่อาจเป็นคำถามที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยอึดอัดที่จะตอบ จึงยุติการตั้งคำถาม หลังจากแถลงข่าวเสร็จก็ไปนั่งทานข้าวและพูดคุยชนแก้วกันอย่างชื่นมื่น โดยที่ นายแพทย์ชลน่าน ก็พูดคุยกับตนตามปกติ ไม่ได้มีการคาดคั้น หรือชี้แจงจากทั้ง 2 ฝ่าย
ผมไม่ทราบว่าหลังจากนั้นคุณหมอโดนใครตำหนิ หรือไปรับบรีฟจากใครมา อยู่ๆ วันนี้จึงงัวเงียออกมาพูดกับสาธารณชนว่าเป็นการเสียมารยาท และฝากหัวหน้าพรรคมาอบรมผมด้วย ในมุมมองผมนั้น ทั้งตามมารยาทที่คุณหมอหยิบยกมาอ้าง และเนื่องจากที่เป็นลูกผู้ชายด้วยกันทั้งคู่นั้น ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เราก็ควรจะพูดคุยด้วยอารมณ์และความรู้สึก และ messages เดียวกัน ไม่ใช่ดื่มกินชื่นมื่นกันเป็นชั่วโมง แต่พอวันรุ่งขึ้นกลับตาลปัตร มาพูดถึงกันในเชิงลบผ่านสื่อมวลชนเช่นนี้”
สำหรับตนเอ’การที่พรรคการเมืองจะออกมายืนยันเพื่อความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ยิ่งใหญ่กว่าการเสียมารยาทของตนเพียงแค่คนเดียวมากนัก ดังนั้นการที่จะเอาตัวเองเข้าแลกเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่เช่นนี้ ตนเองไม่ได้กังวลต่อคำสบประมาทว่าเป็นการเสียมารยาท ถ้าจะให้พูดให้เคลียร์คัต ผมไม่ได้กลัวการเสียมารยาท มากไปกว่ากลัวการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ
ส่วนในมุมการรักษามารยาทที่ นายแพทย์ชลน่าน กำหนดบรรทัดฐานมานั้น เมื่อทราบความอึดอัดเช่นนี้ ก็คงไม่ไปถามอะไรถึงเรื่องนี้อีก ในทำนองเดียวกันหากหลังจากนี้มีประชาชนผู้ลงคะแนนให้กับพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมร่วม 25 ล้านคน หรือสื่อมวลชนทั่วไปจะมีใครไปถาม นายแพทย์ชลน่าน แทนประชาชน ถึงจุดยืน Advance MOU นี้อีก ก็หวังว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะรักษามารยาทด้วยการตอบคำถามต่อพี่น้องประชาชนด้วย.