สภ.สุไหงโกลก แจงภาพ ลงโทษตำรวจยืนตากแดด ยืนยันไม่มีใครเป็นลม
สถานีตำรวจสุไหงโกลก แจงภาพ ลงโทษตำรวจยืนตากแดด ยืนยันไม่มีใครเป็นลม ไม่มีใครถูกหามส่ง รพ. ถ้าไม่ไหวก็ขออนุญาตนั่งพัก
จากกรณีที่มีเพจดังได้โพสต์ภาพของตำรวจ 14 นาย ถูกลงโทษให้ยืนตากแดด และเล่าว่ามีคนเป็นลม อาเจียน และต้องหามส่งตัวไปยังโรงพยาบาล เนื่องจากตำรวจเป็นลม จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้างภายในสื่อสังคมออนไลน์ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด จ.ส.ต.อดิศร สุขนวล ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นหนึ่งในตำรวจที่ปรากฎเป็นภาพได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันนั้นการลงโทษก็มีแค่ให้ยืนตามระเบียบพัก ยืนท่าตรง แต่ละท่าจะให้เปลี่ยนท่าก็ราว ๆ 1 ชั่วโมง คนสั่งก็ไม่มีการแตะต้องตัวแต่อย่างใด ข่าวที่ออกไปว่ามีการเป็นลมล้มทั้งยืน ต้องหามส่งโรงพยาบาลไม่เป็นความจริง ทุกคนยืนกันทุกคนคนไหนที่ไม่ไหวก็ได้ขออนุญาตนั่ง พอได้นั่งสักพักก็ลุกขึ้นมายืน
ด้าน พ.ต.ท.คำพันธ์ แสนทวีสุข รอง ผกก.สอบสวน หน.งานสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก กล่าวว่า ข้อเท็จจริงการลงทัณฑ์ของผู้บังคับบัญชาในครั้งนี้ เนื่องจากว่ามีการบกพร่องต่อระเบียบหน้าที่เป็นหลาย ๆ ส่วน เป็นเนื้อหาของทางราชการเกี่ยวกับระเบียบหน้าที่ ที่นี่ว่ามีการตักเตือนลงทัณฑ์เป็นบางส่วนก็มีและได้ตักเตือนมาหลายครั้ง ที่นี่การลงทัณฑ์เนื่องจากเป็นภาพรวม
เราพยายามทำให้เป็นภาพรวม เพื่อให้เป็นมาตรฐานของการปฏิบัติงานร่วมกัน ซึ่งเราก็ลงทัณฑ์ไปตามระเบียบไม่มีอะไรที่รุนแรง ที่ไม่มีอะไรนอกเหนือจากระเบียบของตำรวจเขาวางไว้ ที่ว่าไม่สบายนั้นถึงกับเป็นลมนั่นไม่ ตนก็ควบคุมการปฏิบัติอยู่ตลอดและใกล้ชิดการลงทัณฑ์
ด้าน พ.ต.อ.ปรัชญา ไปเตะ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ซึ่งไปราชการต่างพื้นที่ เมื่อทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ส่งหนังสือชี้แจงระบุว่า ภาพที่ปรากฏดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 13.00 น. ณ ลานหน้า สภ.สุไหงโกลก เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฏในภาพเป็น เจ้าหน้าที่ตำรวจแผนกงานคดี ประจำ สภ.สุไหงโกลก จำนวน 14 นาย และมี ร.ต.ท.ชาญวิทย์ สิงห์ป้อง พงส.(สบ 1) สภ.สุไหงโกลก เป็นผู้ฝึกแถว
ตลอดระยะเวลาการฝึกธำรงวินัย ได้มี พ.ต.ท.คำพันธ์ แสงทวีสุข รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สุไหงโกลก และพ.ต.ท.นที จันทร์แสงศรี สว.(สอบสวน) สภ.สุไหงโกลก หัวหน้างานคดี ได้ควบคุมการปฏิบัติและชี้แจงถึงเหตุบกพร่องในปฏิบัติหน้าที่และแนวทางในการปฏิบัติงานราชการต่อไป
ข้อบกพร่องในการปฏิบัติ สาเหตุมาจากทางพนักงานสอบสวนหลายๆนาย ได้ประสบก็คือ เจ้าหน้าที่ธุรการที่ปฏิบัติหน้าที่เขียนประจำวัน ไม่ได้อยู่ปฏิบัติหน้าที่และไม่สามารถติดต่อได้ และบางครั้ง พงส.ต้องเขียนประจำวันด้วยตนเอง เจ้าหน้าที่ห้องคดี ไม่อยู่ประจำห้องคดี ทำให้ไม่สามารถประสานงานเรื่องสำนวนได้ทันท่วงที การลงข้อมูลระบบ crime ยังมีการลงข้อมูลผิดพลาดและไม่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์เป็นต้นหลายครั้งที่ทางผู้บังคับบัญชาต้องระดมสายงานอื่น มาช่วยบันทึกข้อมูลของงานสอบสวนและกำชับให้รับผิดชอบหน้างานตนเอง ไม่ให้มีลักษณะงานค้าง
ก่อนที่จะมีการลงโทษครั้งนี้ ทาง พงส.รวมถึงหัวหน้างานสอบสวน ได้มีการแนะนำการปฏิบัติและได้ว่ากล่าวตักเตือนไว้แล้ว แต่การปฏิบัติยังไม่ดีขึ้น การฝึกธำรงวินัยในครั้งนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 14 นายแต่งกายชุดฝึกเขียว มารวมพลหน้า สภ.และสั่งท่า ตามระเบียบพัก และมี รอง ผกก(สอบสวน)ฯ,สว.(สอบสวน)ฯและร้อยเวร สอบสวน ได้ชี้แจงในการปฏิบัติหน้าที่และความช่วยเหลือในการทำงานและรู้หน้าที่ของตนเอง การฝึกธำรงวินัยในครั้งนี้ ไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวแต่อย่างใด มีเพียงสั่งท่าบุคคลท่ามือเปล่าเท่านั้น
หลังเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีภาพปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ถึงกรณีการลงโทษดังกล่าว ซึ่งทาง ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ได้ประชุมระดับ รอง ผกก.ทุกนาย และรีบรายงานผู้บังคับบัญชา (ผบก.ฯ) ทราบ สิ่งจะดำเนินการต่อไป