เรือชนตอม่อภูเก็ต ขณะขนนักท่องเที่ยวกลับจากเกาะพีพีกลางทะเล ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 37 ราย พบคนขับเรือค่าแอลกอฮอล์สูง
นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. ได้ตั้งโต๊ะแถลงกรณีสปีดโบ้ทชนตอม่อที่ภูเก็ต จนเป็นเหตุให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้รับบาดเจ็บรวม 37 ราย โดยผู้ได้รับบาดเจ็บแบ่งเป็นคนไทย 4 ราย, รัสเซีย 21 ราย คาซัคสถาน 9 ราย ฮ่องกง 1 รายจีน 1 ราย และยูเครน 1 ราย
แบ่งผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเรือชนภูเก็ตเป็นระดับสีขาว 2 ราย สีเขียว 13 ราย, สีเหลือง 16 ราย และสีแดง 6 ราย รักษาอยู่ในโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 10 ราย โรงพยาบาลฉลอง 9 ราย โรงพยาบาลดีบุก 2 ราย โรงพยาบาลสิริโรจน์ 5 ราย โรงพยาบาลกรุงเทพ 2 ราย โรงพยาบาลมิชชั่น 5 ราย และโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต 2 ราย จากการตรวจสอบข้อมูลเรือ มี พ.ร.บ.เรือคุ้มครองการรักษาค่ารักษาพยาบาล 15,000 บาท/ราย
ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตจะดำเนินการสืบสวนทางด้านคดี เบื้องต้นได้ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่เรือไว้เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างรอผลตรวจ เพื่อใช้เป็นหลักฐานข้อมูลประกอบเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบ พบเรือสปีดโบ๊ทชื่อ ธนาธิป มารีน ของ บริษัท เอไทม์ เนเจอร์ ซึ่งนำนักท่องเที่ยวเดินทางออกจาก จ.ภูเก็ต บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อ.เมืองภูเก็ต มุ่งหน้าจะไปเกาะพีพี จ.กระบี่ ชนกับเสาสัญญาณเดินเรือ ขณะกำลังนำนักท่องเที่ยวเดินทางกลับจากเกาะพีพี จุดเกิดเหตุห่างจากท่าเทียบเรืออ่าวฉลองราว 700 เมตร
