สรุปคดีดัง แชร์แม่มณี แชร์ลูกโซ่ที่มีเงินสะพัดนับพันล้านบาท
สรุปคดีแม่มณี ย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ชื่อดังของเมืองไทย ที่มีผู้เสียหายหลายพันคน พร้อมเงินสะพัดกว่าหลายพันล้านบาท เปิดที่มา ‘วันทนีย์ ทิพย์ประเวช’ หรือ เดียร์ พริตตี้ขายตุ๊กตาจากอุดรธานี สู่เจ้าแม่วงแชร์ที่สร้างภาพหรู มีธุรกิจร้านทองแถมยังเป็นผู้จัดภาพยนตร์ดังที่หลายคนไว้ใจ ก่อนนำไปสู่การตัดสินจำคุกนานกว่า 5,056 ปี ใครพร้อมแล้วไปอ่านรายละเอียดแชร์แม่มณีพร้อมกันได้เลย
แชร์แม่มณี สรุปคดีดัง ที่ทำคนขาดทุนร่วมพันล้าน
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2562 คงไม่มีข่าวการเงินประเด็นไหน ที่จะโด่งดังมากไปกว่า “แชร์แม่มณี” อีกแล้ว เพราะในตอนนั้นได้มีผู้เสียหายจำนวนเกือบ 4 พันคน เปิดเผยว่าตนถูก เดียร์ เน็ตไอดอล หรือ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช ที่ใช้นามแฝงว่า แม่มณี โกงเงินจากแชร์ลูกโซ่ไปหลายพันล้านบาท กระทั่งนำไปสู่การจับกุมในเวลาต่อมา
สำหรับจุดเริ่มต้นของคดีแชร์แม่มณี เกิดจากการที่ แม่มณี หรือ เดียร์ ได้ผุดไอเดีย ‘ฝากเงิน ออมเงิน by บัญชีแม่มณี’ ซึ่งเป็นการชักชวนให้คนมาลงทุน โดยให้ผลตอบแทนมากถึงร้อยละ 93 หรือเปรียบเทียบได้ว่า ทุกการออมเงิน 1,000 บาท จะมีกำไรเพิ่มขึ้น 930 บาท ทำให้ได้รับเงินคืนสูงถึง 1,930 บาทนั่นเอง โดยการลงทุนครั้งนี้ไม่ได้มีการจำกัดวงเงินเอาไว้
ส่วนสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ผู้คนสนใจมากกว่าเดิม นั่นก็เพราะได้มีการอ้างว่า แม่มณีได้ลงทุนในธุรกิจหลายอย่าง ทั้งสร้างหนัง แบรนด์เครื่องสำอาง และร้านทอง จึงมีผลตอบแทนที่สูง ทำให้ผู้ที่สนใจแห่กันฝากเงินกับแม่มณีตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักล้าน โดยในระยะแรกได้รับเงินปันผลจริง กระทั่งเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง
ในระหว่างนั้นแม่มณีก็ได้สร้างภาพ ด้วยการเปลี่ยนภาพลักษณ์ จากเน็ตไอดอลธรรมดาที่ไลฟ์ขายตุ๊กตา มาเป็นผู้จัดละคร รายการโทรทัศน์ และภาพยนตร์ รวมไปถึงบุกเบิกธุรกิจเครื่องสำอางที่พร้อมหน้าไปด้วยนักแสดงและดาราดังหลายคน จนกลายเป็นที่รู้จักในสื่อบันเทิง ทั้งในฐานะนักธุรกิจสาวที่ประสบความสำเร็จและเซเลบริตี้ชื่อดัง
แชร์แม่มณีถูกเปิดโปง จับพิรุธไม่จ่ายเงินนักลงทุน
หลังจากที่คนจำนวนมากหลงเชื่อ จนหันไปออมเงินกับแม่มณีเพื่อหวังผลตอบแทน 93% ก็พบว่าในระยะหลัง มีหลายคนที่ไม่ได้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย โดยพบว่าในช่วงแรกมีการจ่ายเงินตามจริง แต่เมื่อมีผู้คนลงทุนมากขึ้น จนบางคนถึงขั้นควักเงินล้าน แม่มณีก็จะอ้างว่า มีปัญหาในการเบิกจ่าย อาทิ เคลียร์เช็กไม่เสร็จ หรือล่าช้าที่สาขาธนาคาร
เมื่อมีหลายคนประสบปัญหาเดียวกัน ผู้เสียหายก็ได้พากันรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ จนสร้างแชทกลุ่มในการพูดคุยกับแม่มณีเพื่อขอเงินคืน ในขณะเดียวกันช่วงเดือนตุลาคม 2562 ก็ได้มีคนพบว่า อีกหนึ่งคนที่น่าสงสัยคือ มะนาว หรือ จุฑาทิพย์ นิ่มนวล ที่ได้เปิดให้ออมเงินในกลุ่มไลน์คล้ายธุรกิจออมเงินของแม่มณี ก่อนทยอยไล่บล็อคและไม่คืนเงินผู้เสียหาย จนพบว่า มะนาวเป็นแม่ทีมของเครือข่ายแม่มณีที่หักเปอร์เซ็นจากผู้ลงทุนคนอื่น ๆ
หลังจากที่รอมาเนิ่นนาน ในที่สุดผู้เสียหายจำนวนกว่า 200 คน ก็ได้รวมตัวและนำหลักฐานไปยื่อนเรื่องต่อดีเอสไอ (DSI) ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบลงทะเบียนแจ้งเหตุ โดยพบว่าภายในวันที่เปิดให้ลงทะเบียน มียอดผู้เสียหายพุ่งสูงถึง 1,600 ราย จนนำไปสู่การยื่นขอให้คดีแม่มณีกลายเป็นคดีพิเศษ
เป็นเหตุให้ในวันที่ 29 ตุลาคม 2562 ได้มีการอนุมัติหมายจับแม่มณี ทั้งหมด 3 ข้อหา ประกอบไปด้วย ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ด้านตำรวจก็ได้บุกไปที่อาคาร 3 คูหาที่เป็นชื่อของแม่มณี พบมีการจัดฉากเป็นร้านทอง โดยได้ใช้ทองปลอมเป็นฉากไลฟ์สด สร้างความน่าเชื่อถือหลอกนักลงทุน ทั้งยังมีการยึดโกดังปลาร้า อีกหนึ่งธุรกิจดั้งเดิมที่แม่มณีเคยบริหารด้วย
จับกุมแม่มณี ศาลตัดสินจำคุก 5,056 ปี
ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบุกจำกุมแม่มณีและแฟนหนุ่ม ที่อำเภอสัตหับ จังหวัดชลบุรี โดยทั้งคู่ได้หลบอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง โดยมีการระบุว่า ความเสียหายจากแชร์ลูกโซ่ครั้งนี้ พุ่งสูงถึง 1,300 ล้านบาท ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพบว่า แม่แท้ ๆ ของแม่มณี ก็มีส่วนพัวพัน โดยมีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากถึง 60 ล้าน
ทำให้ได้มีการแจ้งจับ วธวัลรัตน์ ทิพย์ประเวช มารดาของแม่มณี ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนเช่นกัน นอกจากนี้แล้วหนึ่งในแม่ทีม หรือเครือข่ายของแม่มณี ยังมีเงินสะพัดในบัญชีสูงถึง 100 ล้านบาทอีกด้วย
กระทั่งล่าสุดในปี 2566 ได้มีการตัดสินจำคุกแม่มณี หรือ เดียร์ วันทนีย์ ทิพย์ประเวช และสามีหนุ่ม เมธี ชิณภา คนละ 5,056 ปี ทว่าในทางปฏิบัติตามกฎหมายจะถูกจำคุกจริง 20 ปี ส่วนจำเลย 3 – 9 ได้มีการยกฟ้องแล้ว.