ประกาศจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม 2566 เลือกตั้งล่วงหน้า งด ซื้อ-ขาย หรือแจกจำหน่ายสุรา หากฝ่าฝืนมีโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตั้งสติแล้วพักก่อน!! สายชนคนปาร์ตี้ต้องทราบ ก่อนโค้งสุดท้าย “เลือกตั้ง 2566” คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ประกาศข้อห้ามในวันเลือกตั้งล่วงหน้าวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม 2566 อ้างอิงตามบทบัญญัติของมาตรา 147 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง พ.ศ. 2561 ระบุว่า ห้ามขาย จําหน่าย จ่ายแจก หรือ จัดเลี้ยงสุราทุกชนิดในเขตเลือกตั้ง (ล่วงหน้า) ระหว่างเวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวัน (6 พ.ค. 66) ไปจนถึงเวลา 18.00 น. ของวันเลือกตั้งล่วงหน้า (7 พ.ค. 66) นั่นเองครัรบ
อย่างไรก็ตาม หากบุคคลใดฝ่าฝืน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง พ.ศ. 2561 มาตรา 147 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับรายละเอียด ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ณ ที่เลือกตั้งกลางในวันออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 ระบุเอาไว้ว่า ในวันเลือกตั้งล่วงหน้า (หรือวันที่ 7 พฤษภาคม 2566) ผู้สมัคร ส.ส. และพรรคการเมือง สามารถหาเสียงได้ตามปกติ แต่มีกรณียกเว้นระบุว่า
ในส่วนของการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันและเวลาออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง ห้ามมิให้ผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง หรือผู้ช่วยหาเสียงของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง หรือผู้ใด แล้วแต่กรณี ดำเนินการแจกเอกสารหรือวีดิทัศน์เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง หรือใช้พาหนะต่าง ๆ ที่ติดป้ายหาเสียง หรือใช้เครื่องขยายเสียงเพื่อช่วยในการหาเสียงเลือกตั้ง หรือจัดเวทีหาเสียงเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลาง
รวมไปถึงการงดมิให้ผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง หรือผู้ช่วยหาเสียง ของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง หรือผู้ใด แล้วแต่กรณี กระทำการที่บริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้งกลาง หรือบริเวณอื่นใดที่จะทำให้เกิดการรบกวน รับรู้ หรือรับทราบข้อมูล เมื่ออยู่ในที่เลือกตั้งกลางด้วย
หากฝ่าฝืนบทบัญญัติดังกล่าว ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด มีอำนาจแจ้งให้บุคคลนั้นงดการกระทำดังกล่าว หรือแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง แล้วแต่กรณี หากไม่ดำเนินการดังกล่าวอาจนำมาเป็นเหตุ ในการสืบสวนหรือไต่สวนตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และ การวินิจฉัยชี้ขาดได้นั่นเองครับ
อ้างอิง : 1
