25 ปี ที่อยู่15 ซ.พระบารมี 5 ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 220/2561 ลงวันที่10 เมษายน 2561 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ” ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับ ” พร้อมด้วยของกลาง เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะที่ก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมได้ที่ หน้าบ้านเลขที่ 15 ซ.พระบารมี ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 เม.ย.61 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายงัดบ้านและลักทรัพย์ในพื้นที่ต.ป่าตอง ได้ทรัพย์สินเป็นเงินประมาณ 8,000 บาท หลังจากรับแจ้ง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและภาพกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุสามารถบันทึกคนร้ายได้อย่างชัดเจน โดยพบภาพคนร้ายที่ก่อเหตุ มีลักษณะการแต่งกายและใช้รถจักรยานยนต์ซึ่งมีตำหนิตรงกันกับ นายหทัยภัทร เหมรา ซึ่งเป็นบุคคลที่เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.ป่าตอง ได้ถ่ายภาพจัดทำประวัติไว้ตามมาตรการตัดมือตัดเท้า เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2561เวลาประมาณ 14.00 น. หลังจากนั้นจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับบุคคลดังกล่าว และสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านหลังดังกล่าว
ในเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง เพื่อต้องการนำเงินไปใช้ในชีวิตประจำวัน
นอกจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ขยายผล นายหทัยภัทร เหมรา ยอมรับว่า เคยก่อเหตุลักทรัพย์ ในบ้านเลขที่ 249/1 (สวีทโฮม) ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 26 มี.ค.61 เวลาประมาณ 02.00 น. ได้ทรัพย์สินเป็น นาฬิกาฝังเพชร ยี่ห้อโรแล็ก ราคาประมาณ 800,000 บาท พร้อมทรัพย์สินอื่นอีกหลายรายการ ซึ่งหลังก่อเหตุ ได้นำนาฬิกาดังกล่าว กับแหวนเพชรเลี่ยมทอง ไปขายให้กับเพื่อนไม่ทราบชื่อจริงในราคา 35,000 บาท และทราบว่า นาฬิกาดังกล่าว กับแหวนเพชรเลี่ยมทอง ได้ถูกนำไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ฯอยู่ระหว่างติดตามทรัพย์สินที่สูญหายไปมาคืนเจ้าของ พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสภ.ป่าตอง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
