รวบหนุ่มพังงาที่ก่อเหตุขโมย กล้องถ่ายรูปพร้อมเลนส์ มูลค่ากว่า 200,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสภ.ถลางรวบหนุ่มพังงาที่ก่อเหตุขโมย กล้องถ่ายรูปพร้อมเลนส์ นาฬิกาข้อมือ เงินสด มูลค่าประมาณ 200,000 บาท คาด่านจุดสกัดบริเวณซอยฟักทอง ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากขโมยเสร็จได้ขับรถหลบหนีมาเจอด่านตรวจถูกจับในที่สุด และยังพบมีหมายจับศาลจังหวัดพังงาอีก 1 หมายจับ
เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 30 มี.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ถลาง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.ถลาง พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน รองผกก.ป.สภ.ถลาง และ พ.ต.ท.ณฐาภพ พงศาปาน รองผกก.สส.สภ.ถลาง นำโดย ร.ต.อ.สุชาติ ลือชา รองสวป.สภ.ถลาง ร.ต.ต.วินัย ยกพรหม รองสวป.สภ.ถลาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสภ.ถลาง ร่วมกันจับกุม นายกิตติกร สมเสริ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/8 ม.2 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พร้อมด้วยของกลางมี รถจักรยาน ยี่ห้อ Turbo สีน้ำเงิน 1 คัน กล้องถ่ายรูป ยี่ห้อ Nikon D7200 พร้อมเลน จำนวน 1 ตัว นาฬิกา ยี่ห้อ CK รุ่น KOA215 จำนวน 1 เรือน นาฬิกา ยี่ห้อ Giordano รุ่น P155 จำนวน 1 เรือน เงินเหรียญ ขนาดต่างๆ จำนวน 3,370 บาท กีต้า ยี่ห้อ Yamaha จำนวน 1 ตัว กระเป๋าสะพาย ยี่ห้อ Nikon สีเทา จำนวน 1 ใบ กระเป๋าสะพายสำหรับใส่กีต้า ยี่ห้อ Yamaha สีดำ จำนวน 1 ใบ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงก่อนเที่ยงวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตั้งจุดสกัดอยู่บริเวณซอยฟักทอง ม.5 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้มีชายวันรุ่นขับขี่รถจักรยานผ่านมาสะพายกระเป๋าหลายใบด้วยกัน ดูท่าทางมีพิรุธท่าทางเจ้าหน้าฯสงสัยจึงได้เรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจสอบ ทราบชื่อภายหลังว่า นาย กิตติกร สมเสริฐ จึงได้ทำการตรวจค้นพบของกลางตามรายการข้างต้น
จากการสอบถาม นายกิตติกร ฯ เบื้องต้นพูดวกไปวนมา จนในที่สุด รับว่า ของกลางดังกล่าวข้างต้น ตนเองได้ไปลักทรัพย์มาก่อนหน้าที่จะขับรถมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดสกัดอยู่ และหลังจากนั้นนายกิตติกรฯ ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้บ้านหลังที่ก่อเหตุ คือ บ้านเลขที่ 222/17 ม.8 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางมาที่ สภ.ถลาง
ต่อมาได้มี นายภาณุวัต สมฤทธิ์ เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว มาพบพนักงานสอบสวนสภ.ถลาง เพื่อร้องทุกข์ ว่า ทรัพย์สินของตัวเองที่อยู่ภายในบ้านเลขที่ 222/17 ม.8 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้หายไปจำนวนหลายรายการด้วยกัน ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำ นายภานุวัตฯ มาดูของกลางที่ได้ตรวจยึดมาจาก นายกิตติกรฯ เมื่อนายภานุวัตได้เห็นของกลางดังกล่าว ยืนยันว่าของกลางทั้งหมดดังกล่าวเป็นของตนเองที่เก็บไว้ในบ้านอยู่เป็นประจำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวนายกิตติกรฯ ในที่สุด และ นายกิตติกรฯ ยอมรับว่า ตนได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง เพื่อต้องการนำทรัพย์ไปขายและนำเงินไปใช้ในชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ฯได้แจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไป และจากการตรวจสอบประวัติของ นายกิติกรฯ พบว่า เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดพังงาที่ จ.42/2556 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2556 “ ในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน” ด้วย จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายกิตติกรฯ ทราบเพิ่มเติม จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่ง พนักงานสอบสวนสภ.ถลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หมายเหตุ รบกวนเบลอภาพหน้าผู้ต้องหาด้วยนะครับ