ข่าวข่าวการเมืองเลือกตั้ง 66

‘มงคลกิตติ์’ เผยนโยบาย สร้างสถานบริการ Sex Worker เชื่อรายได้พุ่ง : เลือกตั้ง 66

มงคลกิตติ์ เผยนโยบายพรรคไทยศรีวิไลย์ สร้างสถานบริการ Sex Worker รวมถึงสร้างสวัสดิการ เชื่อรายได้ประเทศปีละ 2 แสนล้าน

นาย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดเผยถึงนโยบายพรรคว่าทางพรรคมีนโยบายเปิดสถานบริการ Sex Worker เพื่อนำรายได้เข้าประเทศ รวมทั้งการเสริมสร้างสุขภาวะและเสริมสร้างสวัสดิการให้กับบรรดากลุ่มผู้ขายบริการทางเพศทุกคน เชื่อรายรับกระฉูด

เต้ มงคลกิตติ์ กล่าวว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ ก็ยังมีการคิดค้นนโยบายใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมและเสริมสร้างรายได้ให้มากขึ้นไปอีก คือ การเปิดสถานบริการ-sex worker ถูกกฎหมาย มีใบประกอบวิชาชีพบริการ ถูกสุขอนามัย เพิ่มรายได้แปลงจากส่วย เป็นภาษี รายรับจะอยู่ที่ 1.5-2 แสนล้านบาท/ปี ซึ่งจะคล้ายๆ กับการนำเงินรั่วไหลจากบ่อนการพนัน มาทำเป็นสวัสดิการให้กับคนไทย เพราะปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้ที่ให้บริการทางเพศนั้น

นอกจากจะมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการส่วนตัวแล้ว ยังจะต้องจ่ายส่วย หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ค่าอำนวยความสะดวกในการดำเนินกิจการให้กับผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งตนคาดว่า เป็นเงินนับพันล้านบาท โดยเงินเหล่านี้ ควรจะนำมาสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนทั่วไป มากกว่าจะไปกองให้กับคนไม่กี่คนเท่านั้น รวมทั้งการเสริมสร้างสุขภาวะและเสริมสร้างสวัสดิการให้กับบรรดา sex worker ทุกคน ให้สามารถอยู่ได้ในสังคมอย่างสมศักดิ์ศรีนั้น ถือเป็นสิ่งที่ควรทำมากกว่าการที่มองพวกเขาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรดั่งเช่นในปัจจุบันด้วย

พรรคมุ่งเน้นหารายได้เพิ่มเติมเข้าประเทศ เพื่อนำรายได้เหล่านั้น มาสร้างเป็นสวัสดิการให้กับกลุ่มผู้เปราะบาง อาสาสมัครด้านต่างๆ รวมทั้งการผดุงเกียรติของทหารผ่านศึก เช่น การเอาเงินที่สกปรกและรั่วไหลจากระบบ มาทำให้เป็นเงินสะอาดที่นำมาพัฒนาประเทศ โดยต้องการให้มีการนำผลประโยชน์มหาศาลที่เคลื่อนไหวในการพนันมาแปรผันเป็นเงินที่ดูแลประชาชนตามหลักของรัฐสวัสดิการ เช่น การเปิดบ่อนกาสิโน หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ในพื้นที่ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจดี โดยจะเน้นให้นักท่องเที่ยวมาเล่น

ส่วนคนไทยจะมีการจำกัดรายได้และวงเงินในการเล่น ซึ่งจะได้รายรับภาษี 3-4 แสนล้านบาท/ปี และเปิดบ่อน vvip สำหรับนักเล่นมีที่ศักยภาพทางการเงินระดับสูง รับปีละ 3-5 หมื่นราย โดยจะต้องมีวงเงินเล่นต่อครั้งไม่น้อยกว่า 50-100 ล้านบาท จะมีรายรับภาษีไม่น้อยกว่า 1.5-2 ล้านล้านบาท/ปี การขุดคลองไทย เพื่อนำเงินและผลประโยชน์ที่มีมหาศาลเฉพาะค่าธรรมเนียมการผ่านคลองไทย จะได้ภาษีค่าผ่านคลองปีละ 1.5-2 แสนล้านบาท และจะสร้างเงินให้ประเทศสูงมากกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี เป็นต้น ซึ่งถือว่า เป็นนโยบายที่สามารถตอบคำถามสาธารณชนทั่วไปที่มีความห่วงใยว่า นโยบายของพรรคไทยศรีวิไลย์มีการจัดสรรเป็นสวัสดิการนับราวๆ หลายแสนล้านบาทต่อปี

สำหรับนโยบายการเสริมสร้างรายได้ให้กับประเทศมากขึ้นไปอีกนั้น ก็คือ การปรับปรุงการซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือไทย เนื่องจากว่าเรือดำน้ำไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะในการทำสงครามเท่านั้น ยังมีประโยชน์ในการสอดส่องทรัพยากรทางทะเล ทั้งสัตว์น้ำ พืชพันธุ์ธรรมชาติ แหล่งปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเชื่อว่า ในอ่าวไทยยังมีทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ที่จะสามารถใช้ประโยชน์ในการสร้างรายได้ให้กับประเทศนับหลายล้านล้านบาท และเรือดำน้ำถือเป็นเครื่องมือในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ แต่ทั้งนี้ ตนจะขอติดตามการจัดซื้อเรือดำน้ำอย่างใกล้ชิดต่อไป

โดยจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของสัญญา เพื่อให้ประเทศไทยได้ประโยชน์จากการใช้งานให้มากที่สุด ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ทางทหารและการต่างประเทศ ซึ่งจะการันตีรายได้ให้กับประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท ก็จะสามารถนำเงินเหล่านี้ไปจัดสวัสดิการมากขึ้น และยังมีแนวคิดที่จะเพิ่มเงินเดือน ข้าราชการ 10% ทุกปี เพราะขณะนี้มีหลายพรรคที่จะเพิ่มค่าแรงให้มากขึ้น แต่ยังติดกลไกที่จะตกลงกันระหว่าง รัฐบาล เจ้าของกิจการเอกชน และลูกจ้าง แต่การเพิ่มเงินเดือน 10% ทุกปีนั้น รัฐบาลในฐานะนายจ้างสามารถทำได้ทันที

ปกติ รายจ่ายต่อปี ที่เป็นรายจ่ายเงินเดือนข้าราชประจำ-พนักงานราชการ- ลูกจ้างราชการ-ข้าราชการบำนาญอื่นๆ ร่วมประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท/ปี ถ้ามีการเพิ่มเงินเดือน ปีละ 10% จะมีรายจ่ายเพิ่ม ปีที่ 1 ที่ 130,000 ล้านบาท ปีที่ 2 ที่ 143,000 ล้านบาท ปีที่ 3 ที่ 157,300 ล้านบาท ปีที่ 4 ที่ 173,030 ลบ รวม 4 ปี ใช้งบประมาณประมาณ 603,330 ล้านบาท ซึ่งเงินที่จะต้องใช้จ่าย ก็นำมาจากนโยบายของพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ยืนยันได้ว่า สามารถหาเงินมาได้ตามนโยบายที่วางไว้ โดยเริ่มจากการที่ประชาชนไว้วางใจให้พรรคไทยศรีวิไลย์ ในการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button