เล่าทั้งน้ำตา ‘กระแต อาร์สยาม’ หวิดโดนวางระเบิด เผยแต่งโป๊เพราะหิวแสง
เปิดใจทั้งน้ำตา กระต อาร์สยาม เล่าวินาทีระทึกหวิดทำครอบครัวดับเพราะ โดนวางระเบิด พร้อมเผยสาเหตุที่ชอบแต่งตัวโป๊ ยอมรับตรง ๆ เป็นคนหิวแสง
นาทีนี้ไม่มีใครจะแซ่บเท่ากับลูกทุ่งสาวอย่าง กระแต อาร์สยาม อีกแล้ว ที่ล่าสุดจัดหนักจัดเต็มกับชุดสีนู้ดที่รูดซิปขาออกได้ และจะกลายเป็นกางเกงขาสั้นเว้าสูง ส่วนด้านหลังก็อวดบั้นท้ายที่ได้มาจากการทุ่มออกกำลังกาย จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา
ล่าสุดสาว กระแต ได้มาเปิดใจถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตผ่านรายการ คุยแซ่บSHOW ทางช่อง one31ว่าด้วยเรื่องของกระแสที่สังคมมีกับการแต่ตัวโป๊ เซ็กซี่ของกระแต อีกทั้งยังเล่าเหตุการณ์สะเทือนขวัญในวันวาน หวิดดับเพราะ โดนวางระเบิด!
ทำไมต้องสุดอะไรขนาดนี้ ?
“หนูเป็นคนที่ทำอะไรสุดทุกอย่าง เพราะทาเก็ตเราคือแม่ๆ น้องๆ เขาจะรอดู จะได้อิ่ม ส่วนท่าพีระมิด มันเป็นเพลงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับความงามก็นึกถึงคลีโอพัตรา และท่าเต้นแบบมัมมี่ เต้นแบบหักๆ (ยิ้ม) และที่มันสั้นเพราะเป็นเพลงโฆษณา ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าทำอะไรไป แล้วต้องโดนอะไร เรามองว่าเป็นความปกติ มีคนชอบและต้องไม่มีคนชอบอยู่แล้ว และสิ่งที่รู้อยู่แล้วว่าโดนแน่นอน แต่อยากให้มองลึกลงไปว่าเป็นศิลปะ ว่าเป็นความยาก ความแข็งแรง ท่าพีระมิดมันยากมาก ฉีกขา กลับหัว แต่ต้องสวยงามด้วย เพราะสวยก็มาก ท่ายากอีกด้วย (ยิ้ม) เพราะเราทำใจไว้แล้ว”
คอมเมนท์ไหน ? ที่ยังรับไม่ได้
“อยู่มาเกือบ 20 ปีในวงการบันเทิง ณ ตอนนี้รับได้ทุกคอมเมนท์ เฉย ๆ กับคอมเมนท์ที่เป็นท็อกซิก เวลาเลื่อนมาเจอหนูชินแล้ว เพราะเจอมาโดยตลอด เอาจริง ๆ ไม่ได้โกรธเลย เพราะเราไม่ได้รู้จักเขา และไม่อยากเอาพลังลบมาใส่ในชีวิตตัวเอง และสงสารด้วยซ้ำ กับการที่เจอคนมาด่าเพื่อความสะใจตัวเอง หนูคิดว่าชีวิตเขาต้องมีปมไหม การที่ชีวิตคนเรามีความสุขพอ เขาจะไม่หยิบพลังลบให้คนอื่น”
กระแต เคยฟาดกลับไหม ?
“เราเป็นคนตรง ๆ ที่เราตอกกลับ เพราะอยากให้มีประเด็นเฉยๆ ไม่ได้อยากตอกกลับเลย แต่พอตอกกลับก็เป็นข่าวลึกๆ เราก็อยากอธิบายในมุมของเราเท่านั้นเอง ก็ตอบหน่อย สร้างกระแสหน่อย โปรโมทเพลง (หัวเราะ)”
และชุดสีนู้ดที่ขึ้นกับไทเทเนียม ?
“มันเป็นคอนเสิร์ตครบรอบของพี่ๆ วงไทเทเนียม มีโอกาสได้ร่วมงาน เราอยากให้เกียตริ และสังคมฮิปฮอป ถ้าผู้หญิงแต่ง คือแซ่บกว่าหนูเยอะมาก ในวานฟิวส์ในผับ และแต่งแบบนั้นก็ตามกาลเทศะ ไม่ได้แต่งแบบนั้นเดินข้างนอก ถามว่ามันโป๊ไหม คือสำหรับหนูถ้าชุดไปทะเลก็บิกินี่ บิกินี่ก็โป๊แล้วนะ แต่ชุดไม่ได้โป๊นะ เป็นบรา และกางเกงขายาว แต่เป็นการผ่าตรงก้น ให้ดูว้าวเป็นเหมือนบิกินี่ เหมือนใส่ชุดว่าย และนี่ใส่ในงานคอนเสิร์ต เป็นวานภายใน ชุดนี้เราเซฟอย่างดี ยอมรับว่าเราเป็คนเริ่มก่อน ยุคบุกเบิกแฟชั่นแบบนี้ เราก็ต้องโดนกระแสแบบนี้”
กระแต สามารถกลับไปใส่ชุดธรรมดาได้ไหม ?
“เอาจริง ๆ ตอนมาจากบ้านคือใส่เสื้อตัวใหญ่ กางเกงยีนส์ตัวใหญ่ ๆ นั่นคือปกติ แต่เวลามางานด้วยลุคของเราเอง ก็เลยต้องแต่งแบบนี้ จะบอกว่าไอ้เรียบร้อยมีไหม คือเราคือทำเพลงแบบเป็นลูกทุ่งเลย รอพี่ที่บ้านนอก ใส่ผ้าถุงแบบบ้าน ๆ ก็ไม่ดูกัน เรียบร้อยก็ไม่มีคนดู ซึ่งก็มีคนถามทำไมไม่ใส่เรียบร้อยเหมือนคนอื่น เอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่น จนเราสูญเสียความเป็นตัวเอง เราก็เลยอยากถามแฟน ๆ อยากเห็นเราในลุคไหน เขาก็เม้นท์ให้กลับไปเป็นแบบเดิม
แต่พอกลับไปเขาก็ไม่ชอบ และวงการบันเทิง มันคือธุรกิจอย่างนึง เราเป็นนักธุรกิจ เรารู้ว่าเราขายอะไร ถนัดอะไร ลูกค้าเรารือกลุ่มไหน สุดท้ายคนที่ไม่เสพเรา เขาก็ไม่ชอบเราอยู่ดี แม้คนที่ชอบเรา จะเป็นกลุ่มเล็ก เราทำแล้ว เราไม่อึดอัดทำไมเราต้องความคาดหวังของคนทั้งโลกมาใส่ตัวฉันทำไม ฉันเหนื่อย”
กว่าจะชิลกับเรื่องพวกนี้ เรามีโมเมนท์ที่โกรธไหม ?
“โกรธแบบจริง ๆ สำหรับตอนนี้ไม่มีเลย เพราะเราโชคดีที่มีธรรมะเข้ามาขัดเกลาตัวเอง อะไรที่อ่านแล้วเป็นทุกข์ เราก็ไม่รับมา เรามองเป็นเรื่องธรรมดา เราใส่แบบนี้ ยังไงก็โดนด่า ก็ต้องรับในสิ่งนั้น”
โกรธไหม ? โดนว่าเป็น นักร้องไทยที่ขายร่างกาย
“ไม่โกรธนะ เพราะมันเป็นเรื่องจริง หนูขายจริง มันคือความพยายาม ออกกำลังกายหนักมาก มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่เราจะมีรูปร่างแบบนี้ การที่เรารูปร่างของเรา จะได้เป็นแรงบันดาลใจให้คนนั้นได้รักษาสุขภาพ”
ที่เราโพสต์ ไม่ใส่ใจทุกอย่าง ทำให้เป็นลุคนี้ ก็เพราะทำเพื่อครอบครัว ?
“ก็ทำเพื่อครอบครัวจริง ๆ เราทำเพื่อคนที่เรารัก เราทำเพื่อพ่อแม่ ชีวิตเราวนลูปแค่นี้ สุดท้ายคนที่ด่า คนที่ไม่รัก ตอนเราป่วย เขาไม่ได้มาดูแลเรา ก็ไม่จำเป็นต้องแคร์ทุกคนบนโลก และเราก็ทำงานเพื่อสนองในสิ่งที่เรารักด้วย ไม่ได้หวังว่าจะต้องดัง จะต้องแมส แต่แค่ได้ทำแล้ว ก็โอเค”
อยากจะบอกอะไรกับคนที่บอกเราหิวแสง ?
“ก็หิวนะ เพราะวงการนี้ทุกคนก็ต้องการแสงหมดแหละ ไม่งั้นคุณก็คงไม่มาอยู่ในวงการบันเทิง แต่ว่าเราไม่ใช่เกิดมาสวย เฟอร์เฟ็กต์ ไม่ใช่ยืนเฉย ๆ ก็ดัง ไม่ได้สวยขนาดนั้น เราก็พยายามทำตัวเองให้อยู่ตรงที่ ๆ มีแสงแหละ ก็ตอบตรง ๆ”
เมื่อไรจะแต่งงาน เพราะเคยบอกถ้าครบพันล้านจะแต่งงาน ?
“ที่ตอนนั้นเราพูดแบบนั้นไป ดูเหมือนหน้าเงินเนอะ ถ้าไม่ถึงไม่แต่ง ไม่ใช่นะ เป็นแค่การตั้งเป้า เพื่อเป็นแรงผลักดัน แต่คิดว่าไม่เกิน 2 ปี ตอนนี้ 37 เราก็อยู่ในช่วงวัยที่มีครอบครัวได้แล้ว ซึ่งถามว่าเราอยากมีลูกไหม และถ้ามีโอกาส เราก็อยากมีลูกแฝด ขอ 2 คนทีเดียว คิดว่าสัก 2-3 เดือน จะไปฝากไข่”
เรารักหุ่นแบบนี้ ถ้ามีลูกร่างกายเราจะเปลี่ยนไป ?
“อาจจะมีหวง แต่สุดท้ายแล้วก็ปล่อยไปตามธรรมชาติให้มันเป็นไป แต่จะกลับมาเหมือนเดิมไหม ก็ต้องลองดู ซึ่งแฟนเราคือรู้จักกันมาจะ 10 ปีแล้ว เขาก็พร้อมนะ เป็นคู่ที่ซัมพอร์ตกันตลอด ปรึกษาเรื่องธุรกิจ เขาอยู่หลังบ้าน เราอยู่หน้าบ้าน”
คนก็จะดูถูกว่า คนอย่างกระแต จะเอาอะไรไปสอนลูก ?
“เออ…ลูกต้องแซ่บกว่าแม่ค่ะ (หัวเราะ) ล่อเล่น ไม่ใช่ค่ะ คนเรามีเรื่องของเวลา เด็กๆ ก็มีการสอนตามวัยเขา ถ้าอันไหนดีก็ทำตาม หมายถึงบอกเด็กๆ ที่ดูเราอยู่ และผู้ปกครองก็มีหน้าที่ดูแลบุตรหลานตัวเอง ถ้าไม่ดีไม่ต้องจำ ไม่ต้องทำตาม แตมีส่วนที่ดีและไม่ดีเหมือนคนอื่น ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่ทุกคนได้ แต่ถ้าเรามีเรา เราตะสอนในส่วนที่เขาควรรู้ ถ้าโตมาเขาอยากจะแซ่บ แซ่บเลย แม่เชียร์ แต่เราก็มีขอบเขต”
อีกหนึ่งเรื่อง เห็นว่าเกือบตายเพราะระเบิด ?
“คือไปคอนเสิร์ตที่หาดใหญ่ ประมาณ 10 กว่าปีแล้ว เราตกใจมาก อันนั้นทำให้เปลี่ยนชีวิต เข้าธรรมะ ว่าเราจะตายวันไหน เราร้องเพลงอยู่ดี ๆ บึ้ม มีเสียงระเบิด เราลืมสเปรย เราให้คุณแม่ลงไปซื้อ ไม่ถึง 5 นาทีได้ยินเสียงระเบิด โทรหาแม่ก็ไม่ติด ตอนนั้นคิดว่าแม่ คิดในหัวว่าทำแม่ตาย ร้องไห้ ทุกคนก็วิ่งหนี เพราะระเบิด 3 รอบกะถล่มตึก
เราไปรอตรงสระน้ำ 4 ชม. เพื่อรอกู้ภัยมาช่วย พอนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นจะร้องไห้ มันเหมือนในหนังว่าเราจะตายไหม เราหนีมาตรงทางหนีไฟ มีคนนอนหมดสติ กระต่ายบอกไม่ไหว เราก็พยุงเขาไปจนถึงชั้นล่าง เปิดประตูออกไป ก็เจอคุณแม่อยู่หน้าประตู (เสียงสะอื้น) วิ่งกอดกัน ชีวิตเปลี่ยนเลย วันนั้นทำให้เราตื่น ทำให้เราอยากอยู่กับปัจจุบัน อยากทำอะไรก็ทำเลย”