กำลังเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างมาในโลกทวิตเตอร์ เมื่อผู้ใช้ทวิตรายหนึ่งออกมาทวิตข้อความเตือนภัยสาว ๆ ว่าเพื่อนตนเองเจอเหตุการณ์ถูกหมอนวดร้านดังลวนลามลูกค้า โดยผู้ใช้บริการอ้างว่าถูกหมอนวดเพศชายจากร้านนวดชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครลวนลามทางเพศ มีทั้งแตะเนื้อต้องในพื้นที่สงวน และการพยายามจะถอดชุดชั้นในของลูกค้า
สำหรับเรื่องราวดราม่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไร วันนี้เดอะไทยเกอร์ได้เรียบเรียงและสรุปไทม์ไลน์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาให้ทุกท่านได้พิจารณาไปพร้อม ๆ กัน ทั้งนี้ก็ขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณในการอ่าน และฟังความทั้งสองฝ่ายด้วยใจที่เป็นกลางก่อนจะตัดสินหรือวิพากษ์วิจารณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้
เพื่อนของเหยื่อออกมาทวิตเตือนภัย
ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ทวิตข้อความเตือนภัย หมอนวดร้านดังในกรุงเทพฯ ลวนลามลูกค้าสาว โดยหมอนวดชายรายนี้มีท่าทีจะจับบริเวณหน้าอกและอวัยวะเพศของลูกค้า รวมไปถึงการกระทำที่มีส่อแววว่าจะถอดกางเกงชั้นในของลูกค้าคนดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ลูกค้าผู้เสียหายได้มีการร้องขอความช่วยเหลือแล้ว แต่ไม่มีใครได้ยิน
เบื้องต้นลูกค้าสาวท่านนี้ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว รวมถึงทางร้านนวดก็ได้เจรจากับลูกค้าผู้เสียหาย โดยจะไล่พนักงานนวดคนดังกล่าวออก และขอให้ทางผู้ใช้ทวิตเตอร์ลบทวิตออกไป ทว่าผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้ไม่ยอม เนื่องจากต้องการให้เรื่องราวทั้งหมดเป็นเครื่องเตือนภัยสาว ๆ ที่จะไปใช้บริการร้านนวด
ผู้จัดการร้านนวดทวิตถึงประเด็นลวนลามก่อนลบทิ้ง
หลังจากเรื่องราวหมอนวดชายร้านดังลวนลามลูกค้าผู้หญิงถูกเผยแพร่ในทวิตเตอร์ และมีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นดังกล่าวจำนวนมาก หนึ่งในนั้นมีผู้ใช้งานทวิตเตอร์ที่อ้างว่าเป็นผู้จัดการของร้านนวดเข้ามาทวิตในลักษณะกล่าวโทษเหยื่อผู้เสียหายความว่า “ทำไมถึงไม่ปฏิเสธหรือวิ่งออกจากห้องในตอนที่รู้สึกว่าโดนลวนลามคะ”
ต่อมาภายหลังพบว่าทวิตดังกล่าวถูกลบออกไป เนื่องจากมีชาวเน็ตหลายคนไม่พอใจที่ทางร้านเลือกจะตอบโต้ด้วยการกล่าวโทษเหยื่อ เพราะในสถานการณ์จริงแต่ละคนมีประสบการณ์การรับมือเมื่อถูกลวนลามต่างกัน อีกทั้งในกรณีเช่นนี้สิ่งที่ควรโฟกัสมากที่สุดคือการลงโทษผู้กระทำผิด
ร้านนวดแถลงการณ์ไล่พนักงานออก
ในเวลาต่อมาทางผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้จัดการร้านนวดได้ทำหนังสือแถลงการณ์ข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยคำชี้แจงมีทั้งหมด 5 ประการ ดังนี้
1. ทางร้านมีการตกลงกับลูกค้าก่อนแล้วว่าจะได้หมอนวดผู้ชาย ซึ่งทางลูกค้าให้ความยินยอม
2. ทางร้านอ้างว่าหลังรับบริการเสร็จ ลูกค้าลงมานั่งจิบชาโดยไม่มีท่าทีวิตกกังวลหรือตื่นตระหนก และไม่มีการร้องเรียนใด ๆ กับทางร้านก่อนกลับบ้าน
3. ทางร้านได้รับการติดต่อจากเพื่อนของลูกค้า พร้อมรีวิวที่ปรากฏผ่านช่องทางออนไลน์ จึงทำการติดต่อกลับไปทางเพื่อนของลูกค้า และได้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นผ่านภาพเหตุการณ์ทางกล้องวงจรปิด
4. หลังจากทางร้านนวดทำการสืบสวนผ่านภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น โดยทางร้านกล่าวว่าลูกค้าไม่มีท่าทีโวยวายแต่อย่างใด อีกทั้งหมอนวดชายคนดังกล่าวก็ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
5. เพื่อความสบายใจของผู้ใช้บริการ ในเบื้องต้นทางร้านได้ตัดสินใจไล่พนักงานนวดชายคนที่ถูกกล่าวหาให้พ้นสภาพพนักงงาน
ทั้งนี้ทางร้านได้ทิ้งท้ายไว้ในแถลงการณ์ว่า หากพบการกระทำใด ๆ ที่ไม่เป็นความจริงและสร้างความเสียหายให้แก่ทางร้าน ผู้กระทำผิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดต่อไป
ผู้จัดการทวิตคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด
หลังจากผู้ใช้ทวิตที่อ้างตนว่าเป็นผู้จัดการร้านนวดได้ทำการทวิตถ้อยคำแถลงการณ์จากทางร้าน ต่อมาก็ได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นว่าลูกค้าผู้เสียหายลงลิฟต์มาพร้อมหมอนวดชาย ก่อนจะนั่งพักอยู่บริเวณหน้าลิฟต์เพื่อรอหมอนวดชายนำรองเท้ามาเปลี่ยนคืนให้ โดยในระหว่างที่รอก็ได้มีการเสิร์ฟน้ำชาให้แก่ลูกค้าก่อน
กระแสตีกลับผู้จัดการร้าน ลงภาพกล้องวงจรปิดไม่ขออนุญาต
แม้ทางผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้จัดการร้านนวดจะออกมาลงคลิปวิดีโอหลักฐานว่าลูกค้าไม่มีท่าทีตื่นตระหนกจากการถูกลวนลามแต่อย่างใด ทำให้เกิดกระแสตีกลับว่าการนำคลิปที่มีภาพผู้เสียหายปรากฏอยู่มาลงในพื้นที่สาธารณะโดยที่ยังไม่ได้ขออนุญาตนั้นผิดกฎหมายหรือไม่ โดยหลายคนคาดว่าทางร้านอาจถูกฟ้องร้องด้วยกฎหมาย PDPA
ชาวเน็ตเสียงแตก มองว่าใครจะได้รับโทษมากกว่ากัน
แม้จะมีชาวเน็ตหลายคนที่เข้าข้างผู้เสียหาย แต่ก็ยังมีบางกลุ่มที่มองว่าการที่เจ้าของทวิตเตอร์รายนี้ (เพื่อนผู้เสียหาย) ออกมาทวิตข้อความโจมตีร้านนวด พร้อมแนบภาพประกอบที่เห็นโลโก้จากทางร้านชัดเจน อาจสร้างความเสียหายให้กับทางร้านอย่างมหาศาล โดยคนกลุ่มนี้มองว่าผู้เสียหายกับทางร้านควรไปเคลียร์กันแบบส่วนตัวมากกว่า
อย่างไรก็ดี หลายคนมองว่าทวิตเตอร์บางแอคเคาท์ที่ออกมาพูดในทำนองปกป้องร้านนวดนั้นเป็นแอคเคาท์อวตารที่สร้างขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากทวิตเตอร์เหล่านั้นจะมีการทวิตข้อความในลักษณะเดียวกัน เช่นพูดถึงเรื่องคู่แข่งทางธุรกิจ ถามคำถามที่เป็นการต่อว่าเหยื่อ และมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่ควรถูกนำมาพูดในพื้นที่สาธารณะ
ชาวเน็ตสงสัยเรื่องแรงงานต่างด้าวรับจ้างเป็นหมอนวด
นอกจากประเด็นเรื่องการลวนลามลูกค้าของหมอนวดชายแล้ว หลังจากที่หลายคนเห็นสัญชาติของหมอนวดว่าเป็นชาวเมียนมาร์ จึงนำไปสู่การตั้งคำถามเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานต่างด้าว เนื่องจากงานนวดไทยเป็นอาชีพต้องห้ามที่สงวนไว้ให้คนไทยทำเท่านั้น จึงทำให้เกิดการเรียกร้องไปทางกระทรวงแรงงานให้มีการตรวจสอบใบอนุญาตทำงานของพนักงานในร้านนวดแห่งนี้ รวมไปถึงเรื่องของใบประกอบวิชาชีพของพนักงานคนอื่น ๆ ในร้านที่เป็นคนไทย (ต้องยื่นต่อกระทรวงสาธารณสุข) และใบประกอบกิจการนวดของทางร้านว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
บทสรุปของประเด็นดราม่าดังกล่าวในขณะนี้มีเพียงพนักงานหมอนวดชายถูกไล่ออกเท่านั้น ส่วนทางทวิตเตอร์ต้นทางของเรื่องนี้ก็ถูกรีทวิตไปกว่า 5 หมื่นครั้ง และมีคนพูดถึงอีกกว่า 300 โควท โดยส่วนมากกระแสของชาวเน็ตค่อนข้างเห็นไปในทางเดียวกันว่าการออกมาเคลื่อนไหวของทางผู้จัดการร้านนวดยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของทางร้านย่ำแย่มากขึ้น
สำหรับเรื่องราวหมอนวดชายร้านดังลวนลามลูกค้าจะจบลงอย่างไร ก็คงต้องติดตามบทสรุปเพิ่มเติมกันต่อไป หากมีประเด็นความคืบหน้าในกรณีนี้เพิ่มเติม ทางเดอะไทยเกอร์จะนำมารายงานให้ทราบในทันที
