ข่าว

เปิดกระจก-ชูนิ้วให้รถคันหลังยังไง ให้คันหลังไม่หัวร้อน แถมยอมให้ปาดโดยดี

เปิดกระจกชูนิ้วให้รถคันหลัง ยังไงไม่โดนด่า แถมเป็นไวรัล พาดูคลิปไวรัลติ๊กต๊อกวันนี้ หลังคนแห่อมยิ้มคลิปสาวขอปาดเข้าเลนขวาสุดด้วยสัญลักษณ์ที่คันไหนขับตามก็ต้องระทวย ยอมให้ผ่านแต่โดยดี

เรียกว่าเป็นกระแสไวรัลที่ผู้คนกำลังแห่กันเจ้าไปดูเป็นจำนวนมาก หลังจากเมื่อวันที่ 25 มี.ค.2566 ที่ผ่านมา ผู้ใช้บัญชีติ๊กต๊อก (TikTok@feempv) ทำการโพสต์คลิปวิดิโอสั้นๆ ความยาวเพียง 0.7 นาที ซึ่งจะเห็นเป็นภาพจากกล้องหน้ารถของรถยนต์คันหนึ่งซึ่งกำลังชะลอให้รถยนต์สีขาวอีกคันซึ่งต้องการจะเปลี่ยนเลน มายังเลนขวามือสุดของถนนเส้นหนึ่ง

Advertisements

โดยจังหวะที่รถคันสีขาวจะปาดเข้ามา ก็เป็นเวลาเดียวกับที่การจราจร ณ ขณะนั้นกำลังมีรถขับตามหลังมาอย่างกระชั้นชิดอย่างไรก็ตาม ไฮไลท์สำคัญอยู่ตรงที่ เมื่อสบโอกาสเจ้าของรถยนต์สีขาวที่ต้องการจะเปลี่ยนเลน

พอให้สัญญาณไฟกระพริบเสร็จเรียบร้อย ก็รีบพาตัวถังรถญี่ปุ่นปรี่จากเลนหนึ่งมายังอีกเลนที่ต้องการได้อย่างทันท่วงที ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณในความมีน้ำจิตน้ำใจให้กับเพื่อนร่วมสัญจรบนท้องถนนซึ่งก็คือรถคันหลังที่ยอมชะลอความเร็วเพื่อให้ เพื่อนร่วมทางได้เปลี่บยเลนในขณะที่การจราจรกำลังอยู่ในช่วงเร่งด่วน

ด้วยเหตุนี้ หลังจากเปลี่ยนเลนสัญจรได้สำเร็จ เจ้าของรถยนต์คันขาวซึ่งจากรายงานไม่ระบุชื่อเสียงเรียงนามก็ได้ตัดสินใจเปิดกระจกรถยนต์ของตัวเองพร้อมกับชูนิ้วเป็นการทำสัญลักษณ์รูปหัวใจ หรือ “ท่ามินิฮาร์ต” ให้กับรถคันหลังที่แสดงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่พื้นผิวถนนให้ในครั้งนี้

และเมื่อชาวเน็ตได้รับชมคลิปดังกล่าวจบ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันหลังเห็นการเปิดกระจกชูนิ้วให้รถคันหลังแบบนี้ แล้วทำให้โกรธไม่ลง เปลี่ยนการรับรู้และความคุ้นเคยของวลีเปิดกระจกชูสัญลักษณ์มือให้รถคันหลังไปอย่างสิ้นเชิง

โดยตัวอย่างความเห็นที่ต่างรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจกับมิตรภาพเล็กๆ ที่กำลังเป็นไวรัลบนท้องถนน ณ เวลานี้ อาทิ ชาวเน็ตท่านหนึ่งพิมพ์บอกว่า “เป็นวิธีขอเข้าเลนแบบตะมุตะมิมาก” “น่ารักแบบนี้ให้ผ่านอย่างเดียวเลย” ขณะเดียวกัน บางคนก็เข้ามาแชร์ประสบการณ์ในเชิงขบขันซึ่งก็ไม่ทราบได้ว่าจะเท็จจริงหรือแน่แท้เพียงใด หลังพิมพ์คอมเมนต์เข้ามาว่า

Advertisements

“เคยลองทำแล้ว สรุปเมียเขาเปิดกระจกมองหน้ากันเลยทีเดียว ขณะที่หลายคนพากันแซว อย่าเผลอชูนิ้วผิดเชียว เดี๋ยวชีวิตเปลี่ยนได้นะ 555+”.

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button