ใครเป็นใคร ภาพส่งมอบถุงเงิน สารวัตรซัว อดีตนายตำรวจ 2 เอามาให้ชูวิทย์ หลัง ทนายตั้ม แถลงข่าวแฉ เกมเดินหน้าแลกหมัดแฉเดือด หนึ่งนักกฏหมาย กับ อดีตนักการเมืองรุ่นใหญ่ ที่คอยเคลื่อนไหวเพื่อสังคม
เจอทั้งการเผา ทั้ง PM 2.5 วันนี้ (28 มี.ค. 2566) ฝุ่นควันในวงการแฉประเทศไทยตลบไปหมด หลังจากที่ “ทนายตั้ม” ออกมากล่าวหา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ด้วยการเปิดภาพอดีตเจ้าพ่อธุรกิจอ่างทองคำรับเงินจาก สารวัตรซัว หรือชื่อจริง พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล ปัจจุบันอายุ 37 ปี
ภาพถุงเงินวางบนโต๊ะในสถานที่แห่งหนึ่ง ด้านข้างมีบุคคล 2 คน กำลังยืนอยู่ ซึ่งนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เคยออกมาโพสต์ Facebook อธิบายว่า ใครเป็นใคร ทำหน้าที่อะไร อ้างว่าบุคคคลในภาพมี 3 คน แต่ที่สำคัญ คือ 2 คนแรกเป็นอดีตข้าราชกาตำรวจที่นายชูวิทย์มีความสนิทสนมด้วย
แต่ที่ส่อพิรุธเนื่องจากอดีตผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ทั้งสองยังมีความสัมพันธ์กับสารวัตรซัวด้วย ตามที่มือกฏหมายดังออกมาเปิดโปงข้อมูลถุงเงินปริศนา 6 ล้านบาท ในการแถลงข่าวที่บริษัทกฏหมายของตัวเอง
และผลพวงจากการแลกหมัดแฉของ 1 นักทำคดีกับอดีตนักการเมืองจอมแฉนี้เอง นอกจากทำให้ได้ทราบถึงที่มาของภาพส่งมอบถุงเงิน “สารวัตรซัว” แล้ว เรื่องราวของปมแถลงข่าว “แฉไป ไถไป” แล้วต่อมากระแสตีกลับเป็น “แถลงไปแถไป” ก็ได้ทำให้สังคมได้ทราบด้วยว่า บุคคลในภาพดังกล่าว มีใครเป็นใครและทำหน้าที่อะไรในวันส่งมอบเงินสีเทาให้กับ นายชูวิทย์ ที่เดินหน้าเปิดโปงกลุ่มทุนจีนสีเทาและธุรกิจมืดต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง
- คนแรกมียศ พลตำรวจตรี (พล.ต.ต.) เคยเป็นอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้
- คนที่ 2 ยศพลตำรวจโท (พล.ต.ท.) เคยดำรงตำแหน่งในสำนักงานการปราบปรามการฟอกเงิน (เลขาฯ ปปง.) คนนี้ นายษิทรา เคยให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในคดีสารวัตรโจ้ ทำหน้าที่เจรจาและนำผู้กำกับโจ้เข้ามามอบตัว
- คนที่ 3 คือ นายบ่อนย่านพระราม 3
ฝั่งของนายษิทรา ให้ข้อมูลว่า ภาพที่ปรากฏ เป็นภาพทืี่ทั้ง 2 คน ส่งงานให้เจ้าของเงินอีกครั้ง ซึ่งทนายที่มีข่าวค่าแถลง 3 แสน ยืนยันว่าตรงประเด็นนี้ได้เป็นการยืนยันว่านั่นคือเงินดังกล่าวนั้นถึงมือผู้รับแล้ว
ส่วนปมที่มีการนำเงินให้นายชูวิทย์ก็เพราะอยากให้หยุดแฉ ปิดปากเรื่องลาลิซ่า สถานอาบอบนวดซึ่งกำลังมีประเด็น
โดยจากคำกล่าวหาล่าสุดนั้น นายชูวิทย์ไม่ยอมหยุดแฉกระทั่งหนุ่มใหญ่เจ้าของโรงแรมเดวิส สุขุมวิท 24 ได้รับถุงเงินปริศนาดังกล่าว.
