ทนายตั้ม แย้ม ชูวิทย์ จ่อฟ้อง ลูกเพจขอแฉคนเอาเงินมาให้ เจอตอกแรง
ทนายตั้ม เคลื่อนไหวหลัง ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จ่อฟ้องเอาผิดหนึ่งในหระบวนการบ่อนทำลาย นักฏฆมายโพสต์รับลูกหลังทราบข่าว พิมพ์ฝากอดีตนักการเมืองจอมแฉ ฟอกเงินโทษสูงสุด 10 ปีต่อกรรม คุกนะพี่ไม่ใช่โรงแรมเดวิส อย่าคิดไปเช็คอินบ่อย ผมเป็นห่วง
หลังจากที่วันนี้ (24 มี.ค.66) นายชูวิทย์ อดีตนักการเมืองที่ออกมาเดินหน้าแฉกลุ่มทุนจีนและธุรกิจสีเทา ได้ลงพื้นที่ขึ้นรถติดเครื่องขยายเสียงรณรงค์ต่อต้านนโนบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย พร้อมแจกเสื้อยืดให้กับประชาชน ก่อนแถลงข่าวชี้แจงกรณีโรงพยาบาลศิริราช เรื่องการคืนเงินบริจาคจำนวน 3 ล้านบาทของนายชูวิทย์ที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง
ช่วงหนึ่งของการรณรงค์ต่อต้านเรื่องกัญชาของภูมใจไทย นายชูวิทย์ ได้กล่าวช่วงหนึ่งว่า ตนเองได้มอบหมายทนายความดำเนินการตามกฎหมาย เพราะมีกระบวนการทำลายล้างตน ลูกตน รวมถึงทรัพย์สิน
โดยนายชูวิทย์มีการต่อสายโทรศัพท์ถึงทนายอนัตตชัย ไชยเดช พร้อมยืนยันจะฟ้องร้องทนายตั้ม ในฐานะทนายความของนายชูวิทย์ โดยทนายอนันตชัย เผยว่าการกระทำของทนายตั้มนั้นถือว่าผิดมารยาททนายความ และหากยังไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนแล้วนำมาเปิดเผยต่อสาธารณชนยังถือว่าเข้าข่ายการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
ทั้งนี้ หลังจากที่นายชูวิทย์ประกาศต่อหน้าสื่อว่าตนเองเตรียมฟ้องนักกฏหมายที่กำลังเป็นคู่กรณีเบอร์ล่าสุด ทางฝั่งของ ทนายตั้ม เองก็เคลื่อนไหวรับลูกผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทันที โดยระบุข้อความหลังจากทราบข่าวเตรียมจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเอาผิดว่า
“อ้าวพี่ชูวิทย์จะฟ้องผมแล้วเหรอครับ ผมถามอะไรพี่ไม่ตอบ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วผมก็มั่นใจไม่มีคำถามไหน ทำประเทศชาติเสียหาย เงินจริง ถุงเงินจริง พี่ก็ยืนยันเอง ว่ารับมาจริง ผมแค่เป็นห่วง ว่าพอพี่ไปแตะเงินโจร เงินคนผิด ทั้งพี่ ทั้งโรงพยาบาลจะโดนพ่วงฟอกเงินกันไปหมด โทษสูงสุด 10 ปีต่อกรรมนะพี่ ต่างกรรมต่างวาระ คุกนะพี่ไม่ใช่โรงแรมเดวิส อย่าคิดไปเช็คอินบ่อย ผมเป็นห่วง”
หลังจากโพสต์รับลูกของนายษิทราเผยแพร่ไปไ่นานก็ได้เกิดราม่าเล็กๆ ขึ้น เมื่อมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้เข้ามาพิมพ์สอบถามข้อมูลแฉของทนายตั้ม โดยกล่าวว่าให้ช่วยแฉคนที่เอารูปเอาเงินมาให้ แต่ต่อมาทางเพจของนักฏหมายหนุ่มก็ได้เข้ามาตอบด้วยประโยคที่สื่อไปในทางลบ ด้วยการพิมพ์ข้อความตอบกลับ ดังนี้ฃ
“อย่าโง่ให้มาก เขารู้กันหมดประเทศแล้ว” ซึ่งต่อมาแม้ทางเพจทนายดังจะลบคอมเมนต์นี้ออกไป แต่ปรากฏมีมือดีบันทึกภาพหน้าจอไว้ได้ทัน จึงนำมาเผยแพร่ใต้ช่องคอมเมนต์จนเกิดเป็นประเด็นขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของการออกมาเดินหน้าแลกหมัดแฉกันของนายชูวิทย์กับทางทนายตั้ม ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 มีนาคม 2566 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กล่าวถึงกรณีของนายชูวิทย์ที่ออกมายอมรับกลางงานแถลงข่าววานนี้ว่า รับเงินจาก พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ “สารวัตรซัว” อดีต สว.ฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง ที่มีส่วนพัวพันกับเว็บไซต์รับพนัน เพื่อให้เลิกหยุดแฉนั้น
ประเด็นนี้ “พ.ต.อ.ศิริวัฒน์” กล่าวว่า ทางกองบัญชาการสอบสวนกลางจะต้องพิจารณาก่อนว่าทางพนักงานสอบสวนมีอำนาจให้การตรวจสอบหรือไม่ และเงินที่ นายชูวิทย์ ได้มา เป็นเงินจากอะไร หากเป็นเงินจากการกระทำความผิดก็อาจสุ่มเสี่ยงที่จะต้องถูกดำเนินคดีในฐานความผิดร่วมกันฟอกเงิน.