สาวโวย ช็อปแบรนด์เนมไทยลืมถอดสัญญาณกันขโมย เกือบโดนจับที่ฮ่องกง
เกือบซวย! สาวโวยช็อปแบรนด์เนมไทย ซื้อกระเป๋า 2 แสน แต่พนักงานลืมถอดสัญญาณกันขโมย ทำให้เกือบโดนจับตอนไปเที่ยวฮ่องกง เคราะห์ซ้ำได้รับแค่ดอกไม้ขอโทษ
กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์พอสมควร สำหรับกรณีที่มีสาวคนหนึ่ง ต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด หลังลงทุนควักเงินจำนวน 2 แสนบาท ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมหรูจากช็อปในประเทศไทย แต่ทางร้านกลับลืมถอดสัญญาณกันขโมยให้ เมื่อไปเที่ยวห้างที่ฮ่องกง สัญญาณกันขโมยดันดังขึ้น จนถูกมองว่าเป็นขโมย โชคดีมีใบเสร็จติดตัว ทำให้ไม่ถูกจับ เบื้องต้นติดต่อกลับที่แบรนด์ดัง ทางร้านกลับจะขอโทษพร้อมดอกไม้ 1 ช่อเท่านั้น
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม 2566 เพจดังในเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวของหญิงสาว ที่เกือบโดนจับเพราะสัญญาณกันขโมยที่พนักงานลืมถอด ดังนี้
“เกือบซวยต้องติดคุกเพราะพนักงานลืมเอาสัญญาณกันขโมยออก จะส่งจะส่งกระเช้ามาแต่ไม่ชัดเจนอะไรในการเยียวยาเลย
เรื่องซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดังจากช้อปสุวรรณภูมิ
แล้วพนักงานลืมเอาตัวสัญญานกันขโมยออก เดินทางไปถึงฮ่องกงเข้าห้างฮา…ตัวสัญญานกันขโมยร้องทันที ทำให้โดนเชิญตัว และมองว่าเป็นคนขโมยของในห้าง จึงพยายามเดินไปช็อปแบรนด์ที่ซื้อ พนักงานก็ยังไม่ยอมเอาออกให้ ต้องประชุมกันก่อน ถึงแม้จะมีใบเสร็จจากไทยไปแสดง ทำให้อับอายเป็นอย่างมาก
แต่ประชุมเสร็จพนักงานที่ฮ่องกงก็เอาออกให้ กระเป๋าที่ซื้อราคา 207,500 กลับมาถึงไทยร้องเรียนไปยังแบรนด์ดังกล่าว บอกจะส่งดอกไม้มาขอโทษ 1 ช่อ
ทางเรารู้สึกว่าถ้าเราไม่พกใบเสร็จไปเดินห้าง แล้วเกิดติดคุกที่ฮ่องกง เพราะความผิดพลาดของทางแบรนด์ ทางแบรนด์ควรจะแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้แต่ติดต่อไปหลายวัน หลายครั้ง ก็ได้รับคำตอบว่าจะส่งดอกไม้มาขอโทษ 1 ช่อตอนออกจากช้อป สัญญานกันขโมยก็ไม่ร้องนะคะ
เรียนปรึกษาค่ะ ว่าแบบนี้ทางแบรนด์ดังควรเยียวยาลูกค้ามั้ยคะ ถามไป 4 วัน ก็ได้รับคำตอบเดิมค่ะ เดทไลน์เมื่อวานค่ะ เพื่อให้คนส่วนใหญ่ตัดสินว่าคุณทำเกินไปมั้ยถ้าเราไม่ได้เอาใบเสร็จติดไปด้วย แล้วติดคุกก่อน …จะรับผิดชอบยังงัยกับเรา”
งานนี้ทำเอาชาวเน็ตเห็นใจ แห่คอมเมนต์ช่วยกันอย่างล้นหลาม อาทิ
“#คุณต้องให้ทนายความทำหนังสือยื่นฟ้องครับ ทางแบรนด์จะตาเหลือกรีบส่งทีมกฏหมายมาดูแลคุณทันที”
“พี่สาวเคยโดนที่ไทยหลายปีแล้ว ยามจับแขนพี่กระชากจนบาดเจ็บ ได้รับแค่คำขอโทษ”
“ฟ้องครับ เมื่อมีปัญญาซื้อแบรนด์เนมแบบนี้ คงไม่มีปัญหาที่จะจ้างทนาย แบบ เมกา ฟ้องทุกเรื่องถ้าเราถูก แบรนด์เนมขายของโคตรแพงกำไรโคตรมหาศาล แต่ทำลูกค้าขายหน้าเกือบได้รับโทษขโมยของ ฟ้องเลยเอาให้มันเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ให้แค่ช่อดอกไม้ บอกมันเลยช่อดอกไม้นะเอาไปวางหน้าหลุมศพมันนะ”