หญิงร้องสื่อ ถูกพระทักมาจีบ บอก “อยากกอดให้ตายคาอก”
หญิงร้องสื่อ ถูกพระทักมาจีบ บอก “อยากกอดให้ตายคาอก อยากจูบให้ตายคาปาก” แถมขอยืมเงินด้วย ด้านพระถูกพาดพิงบอกแค่พูดแบบทีเล่นทีจริง
ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากนักธุรกิจหญิงประกอบกิจการด้านงานโยธา สำนักงานตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชุมพร เกี่ยวกับพระที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ระดับเจ้าอาวาสชื่อ อาจารย์คง ที่มีการพูดคุยเรื่องขอยืมเงินและพิมพ์ข้อความมาทางไลน์ในเชิงชู้สาว
ทีมข่าวได้พบกับนางฝน อายุ 36 ปี โดยเธอเล่าว่า ตนได้รู้จักกับพระรูปดังกล่าวมานานแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้พระรูปนี้ได้มาจำวัดอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใกล้กับบ้านแม่ของตน ระหว่างที่พระจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์ ตอนนั้นได้มีการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ตนก็ได้เข้าไปช่วยทางวัด ช่วยกันดูแลลูกเณร ช่วยเรื่องการทำอาหารเพราะมีลูกเณรที่ไปบวชเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไร แค่คิดว่าได้ไปทำบุญ
ตอนที่บวชอยู่ที่สำนักสงฆ์ ตนกับพระรูปดังกล่าวก็รู้จักสนิทกันเหมือนกับเราเป็นลูกศิษย์ ได้มีการพาไปทำธุระตามที่ท่านขอให้ช่วยเหลือ เพราะรถที่พาไปเป็นรถกระบะ ก็คิดว่าไม่ได้เสียหายอะไร หลังจากนั้นพระรูปดังกล่าวได้ไปเป็นเจ้าอาวาสที่วัดแห่งหนึ่ง เมื่อย้ายไปอยู่ในเมืองตนก็ไม่ได้ไปหาหรือพบกับพระรูปดังกล่าว มีเพียง 1 ครั้งไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลพร้อมกับพ่อของตนเพราะทราบว่าท่านอาพาธเส้นเลือดในสมองแตก จากนั้นพระก็พยายามโทรมาและพูดคุยในเชิงชู้สาวตนก็ไม่รับสายและตั้งบล็อกสายไว้ จึงไม่สามารถติดต่อได้
“จนกระทั่งเราเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ จึงทำให้พระรูปดังกล่าวสามารถติดต่อได้อีกครั้ง ซึ่งเมื่อโทรมาเราก็รับสายปกติ เนื่องจากไม่ทราบว่าเป็นเบอร์ของใคร หลังจากรับและทราบว่าเป็นพระรูปดังกล่าว โดยพระพยายามขอยืมเงิน 20,000 บาท โดยอ้างว่าจะนำไปจ่ายค่าพัสดุ ซึ่งฝนตอบกลับไปว่า เงินจำนวนเยอะจะโดนมิจฉาชีพหลอกหรือเปล่า เพราะเดี๋ยวนี้มิจฉาชีพมีหลายรูปแบบ ฝนจึงบอกไปว่าหากพัสดุมาแล้วให้บอกเดี๋ยวจะไปจ่ายเงินเอง” นางฝน กล่าว
นอกจากนี้พระรูปดังกล่าวยังขอยืมเงินอีกด้วย โดยพูดว่า “พี่หลวงพูดกับน้องตรง ๆ ก็ได้ว่าจริง ๆ แล้วคนที่เขาจะส่งพัสดุมาให้ซึ่งเป็นเงินดอลลาร์เขาเป็นสีกาของพี่หลวงเอง” ตนก็ถามกลับไปว่า “สีกาคือเมียเหรอ” พระรูปดังกล่าวก็ตอบว่า “ใช่เป็นเมียของพี่หลวงเอง”
หลังจากนั้นพระก็ยังบอกอีกว่าถ้าได้เงินไปให้ค่าพัสดุ 20,000 บาท แล้วเมื่อได้เงินดอนลาร์จะเอาไปขึ้นธนาคารก่อน และถ้าตนอยากได้เท่าไหร่ก็ยินดีที่จะให้ หลังจากนั้นพระพยายามส่งข้อความมาพูดถึงในช่วงที่ตนจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์และได้เจอกับตน ได้ไปไหนมาไหนกับตนว่ามีความสุข และส่งข้อความมาบอกว่า “พี่หลวงรักน้องมาตั้งนานแล้ว”
นางฝน กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นก็พยายามทักและโทรมาพูดคุยในทางชู้สาวกับตนอยู่เสมอ ล่าสุดก็ยังส่งมาอีกว่า “เมื่อคืนได้นอนฝันถึงว่ามีความสุขมากเลย อยากจะกอดให้ตายคาอก อยากจะจูบให้ตายคาปาก เออคิดแล้วว่ามันมีความสุขมาก” ตนก็แค่เปิดอ่านและไม่ได้มีการตอบกลับ ซึ่งเท่าที่ตนได้สอบถามลูกศิษย์ที่เคยใกล้ชิด ก็เล่าให้ฟังว่า พระรูปดังกล่าวมีพฤติกรรมเช่นนี้จริง ๆ เคยมีหลานซึ่งเป็นหลานที่ห่างออกไปไม่ใช่หลานแท้ ๆ ก็ถูกพระรูปนี้พูดว่า “มานอนกับพี่หลวงก่อนสักคืนสิอย่าเพิ่งกลับ”
นางฝน กล่าวด้วยว่า ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้มันไม่เหมาะสมที่จะครองผ้าเหลือง ตนจึงรวบรวมข้อมูลที่พระรูปดังกล่าวทักแชทมาคุยกับตน นำไปแจ้งความและร้องศูนย์ดำรงธรรม ทางศูนย์ฯก็เชิญสำนักพุทธฯเข้าไปรับทราบเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ก็จะต้องคุยกับเจ้าคณะจังหวัดต่อไป จากเหตุการณ์ครั้งนี้ที่ตนออกมาเปิดเผย เพราะคิดว่าพระรูปนี้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม หากมีพฤติกรรมแบบนี้ไม่ควรครองผ้าเหลือง ควรออกมาเป็นประชาชนคนทั่วไป จะได้ไม่สร้างความเสื่อมเสียให้กับพระพุทธศาสนา
ทั้งนี้ทีมข่าวได้เดินทางไปพบ เจ้าอาวาสที่ถูกพาดพิง โดยได้สอบถามกับ พระครูนิวิฐบุญญาภินันท์ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสที่วัดแห่ง ซึ่งท่านอยู่ในสภาพเป็นผู้ป่วยติดเตียง แขนด้านซ้ายลีบ เท้าทั้งสองข้างบวม จากภาวะเส้นเลือดในสมองแตก แต่ยังสามารถพูดคุยได้อย่างคนปกติทั่วไป เจ้าอาวาสบอกว่า รู้จักกับผู้หญิงคนนี้มานานแล้ว ก่อนหน้านี้ได้ไปบวชถือศีลที่สำนักสงฆ์ และพ่อแม่ก็สนิทกับพระอาจารย์ ส่วนเรื่องที่ทักแช็ตไปคุยบอกรักนั้น ก็เป็นเรื่องจริง แบบทีเล่นทีจริง อาตมาป่วยแบบนี้ก็มีบางช่วงที่ขาดสติไป
ส่วนประเด็นเรื่องของการยืมเงินนั้นก็เป็นเรื่องจริง ตนเองไม่มีเงินจึงได้โทรไปยืมเงินผู้หญิงคนนี้ ส่วนที่บอกว่า ถ้ามีเงินจะหญิงสาวไปให้ไกลจากชุมพร แล้วจะได้ไปอยู่กันสองคนให้มีความสุขที่สุดในชีวิตบั้นปลายชีวิต ซึ่งเป็นการพูดเพื่อให้เห็นใจและยอมที่จะช่วยเหลือเท่านั้น และการกระทำของตน เพราะต้องการเรียกร้องความสนใจจากสังคม ให้มาดูแลตนเองที่ต้องตกทุกข์ได้ยากเป็นผู้ป่วยติดเตียงกว่า 7 ปี โดยเห็นว่ามีข่าวพระพาสีกามาอยู่ในกุฎิแล้วถูกหมอปลามาจับจนเป็นข่าวดัง ก็อยากจะสร้างกระแสให้เป็นข่าวเพื่อให้สังคมให้ความสนใจ