พ่อเหยื่อทหารคลั่งกราดยิงที่จังหวัดเพชรบุรี ยอมรับจุกอก ไม่รู้จะหาคำใดมาเปรียบ ลูกโดนรัวยิง 6 นัด เชื่อไม่ได้เสียชีวิตทันที แต่นอนจมกองเลือดจนสิ้นลมลูกโดนยิงตั้งแต่เที่ยง ไปถึงที่เกิดเหกตุก็ยังเข้าไปไม่ได้ถามในเมื่อจะวิสามัญอยู่แล้ว ทำไมไม่ทำแต่แรก
ความคืบหน้าล่าสุด ข่าวทหารคลั่งก่อเหตุใช้อาวุธปืนกราดยิงที่หมู่บ้านในจังหวัดเพชรบุรี ล่าสุด (23 มี.ค.2566) บิดาของนาย นายรัฐกร ทองแก้ว หรือ “น้องเบล” อายุ 22 ปี หนึ่งในเหยื่อมือกระสุน นายอนุวัช แหวนทอง อายุ 30 ปี คนร้ายอดีตทหารพรานที่ตอนนี้ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิตปิดปฏิบัติการสลด หลังผ่าน 15 ชั่วโมง นับตั้งแต่เกิดเรื่อง
โดยหลังเหตุการณ์ระทึกขวัญยุติลง มีรายงานเทปสมัภาษณ์พ่อของน้องเบล ซึ่งเตรียมจะไปเป็นพยานขึ้นศาลให้กับ นายพสิษิตฐ์ เอมโอษ หรือ “โอ๊ต” อายุ22 ปี พนักงานส่งอาหารที่มีปัญหาแจ้งความทำร้ายร่างกายกับผู้ก่อเหตุอยู่ก่อน ซึ่งหลังจากที่ครอบครัวมานั่งรอที่ห้องเก็บศพที่ชุมพรเพื่อรอรับร่างของลูกชาย
พ่อน้องเบล กล่าวยอมรับกับนักข่าวว่า ตนเองรู้สึกจุกอกเพราะลูกกำลังจะเรียนจบการศึกษาในเดือนหน้าอยู่แล้ว แถมยังมีลูกน้อยวัยเพียง 1 ขวบ ต้องดูแล ซึ่งเบลต์เป็นความหวังครอบครัว
บิดาผู้เสียชีวิต เล่าด้วยว่า ครั้งสุดท้ายที่คุยกัน ลูกบอกจะไปขึ้นศาลเป็นพยาน บอกเสร็จจากศาลจะไปสมัครงานแต่สุดท้ายก็มาเกิดเรื่องขึ้น
สำหรับสภาพศพของเบล พบกระสุนเจาะที่บิเวณหว่างคิ้ว ช่วงศีรษะ โดยพ่อเชื่อว่าตอนนั้นลูกชายตนเองยังไม่เสียชีวิตทันที และกลายเป็นลูกต้องนอนจมกองเลือดจนสิ้นลมหายใจ เพราะวันดังกล่าวครอบครัวมาถึงที่เกิดเหตุตอนประมาณ 2 ทุ่ม แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปดูร่างลูกได้
นอกจากนี้ ครอบครัวของเหยื่อยังวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ออกมาแถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปฏิบัติการครั้งนี้ เนื่องจากส่วนตัวทางบิดาผู้ตายมองว่า ปฏิการของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ในหารเข้าสยบเหตุนั้น ล่าช้าอย่างมาก ผู้เสียชีวิตถูกยิงตั้งแต่เวลาเที่ยงวัน พ่อผู้เสียชีวิตจึงมั่นใจ ถ้าเข้าไปช่วยตอนนั้น เบล อาจยังไม่เสียชีวิต
ท้ายการสัมภาษณ์ พ่อผู้เสียชีวิตจากเหตุสลดที่เพชรบุรี ฝากถามไปยังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการด้วยคำถาม คิดว่าครอบครัวของเหยื่อจะทรมานขนาดไหน ในฐานะเป็นคนสูญเสียถ้าจะวิสามัญอยู่แล้ว ทำไมไม่ทำตั้งแต่แรก
ส่วนเรื่องมีปัญหาทางจิต พ่อเบลเชื่อว่าไม่ใช่ แต่น่าจะมาจากอาการหลอนยา เพราะลูกเคยเล่าให้ฟัง ปกติอดีตทหารจะคลุ้มคลั่งเป็นบางเวลา และมักจะเปิดเพลงเสียงดัง ออกมาด่าทอ ทำให้ลูกจึงบอกกับตน เดือนหน้าจบการศึกษาก็จะย้ายอออจากหมู่บ้านดังกล่าวแล้ว แต่ก็มาเจอเหตุสลดเสียก่อนซึ่งครอบครัวยากจะทำใจยอมรับกับการสูญเสียนี้.
