เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สาคู นำโดย พ.ต.อ.จิระศักดิ์ เสียมศักดิ์ ผกก.สภ.สาคู พ.ต.ท.สลาน สันติศาสนกุล สว.อก.สภ.สาคู และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.สาคู ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ภูเก็ต นำโดย พ.ต.ต.เอกชัย ศิริ สว.ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานภูเก็ต ร่วมกันจับกุมและสอบปากคำ 1.นายนิรุตต์ ศักดิ์ศรี อายุ 29 ปี ที่อยู่ 132 ม.13 ต.ป่ามะคาบ อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร 2.นายมาโนช นาคโพจิตร อายุ 30 ปี ที่อยู่ 188/15 ถ.ศรีมาลา ต.ในเมือง อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร 3.นายชาคริต จันทร์ประเสริฐ อายุ 23 ปี ที่อยู่ 188/15 ถ.ศรีมาลา ต.ในเมือง อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร พร้อมตรวจยึดของกลาง ได้แก่ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุค โทรศัพท์มือถือ สุราต่างประเทศ นาฬิกา แว่นกันแดด เครื่องประดับและทรัพย์สิน กว่า 100 รายการ โดยสามารถจับกุมได้ที่ บ้านเลขที่ 93/18 ม.5 ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายการบินแห่งหนึ่งว่า สินค้าที่ขนส่งทางอากาศยาน ซึ่งเป็นสิ่งของส่วนตัวของผู้โดยสาร ได้หายไปหลายรายการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนและตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดจนแน่ชัดว่า นายนิรุตต์และนายมาโนช เป็นผู้ที่ก่อเหตุ ซึ่งทั้งสองคนเป็นพนักงานขนกระเป๋าของบริษัท จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่สภ.สาคู พร้อมได้ตรวจยึดของกลางเป็นจำนวนมาก
ในเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันขโมยทรัพย์สินต่างๆ ของนักท่องเที่ยวจริง ขณะทำงานขนกระเป๋าในสนามบิน รวมถึงยังรับซื้อมาจากผู้อื่น แต่มาถูกจับกุมได้ในที่สุด ทางเจ้าหน้าที่ฯได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า นายนิรุตต์และนายมาโนช “ร่วมกันนำหรือพาของต้องห้ามต้องจำกัดเข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังไม่ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้องตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร และ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ส่วน นายชาคริต แจ้งข้อกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.สาคู เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.จิระศักดิ์ เสียมศักดิ์ ผกก.สาคู กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งสามคนได้ก่อเหตุจริงและก่อเหตุมานานแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ฯสืบหาข้อมูลมาอย่างต่อเนื่องจนสามารถจับกุมได้ แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเขตท่าอากาศยานและรับของโจร ต้องให้พนักงานสอบสวนเสร็จสิ้นและจะแจ้งข้อหาตามในภายหลัง นอกจากนั้นทางสายการบินต่างๆ จะต้องมาดูของกลางว่าแต่ละสายการบินมีทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวอะไรหายบ้าง
- ติดตามเราได้ที่ :