ข่าว

ทนายเดชา หวั่นคดีน้องต่อ ซ้ำรอยดราม่า 2 คดีดัง สุดท้ายหาคนรับผิดไม่ได้

ทนายเดชา เคลื่อนไหวโพสต์แง่กฏหมายคดีนิ่ม แม่น้องต่อทิ้งเด็ก เดี๋ยวจะเหมือน คดีน้องชมพู่ คดีแตงโม และอีกหลายคดีที่เป็นดราม่า สุดท้ายแล้วหาคนรับผิดไม่ได้

จากกรณีคดีข่าวปฏิบัติการค้นหา ด.ช.ต่อศักดิ์ แสงสว่าง หรือ น้องต่อ เด็กวัย 8 เดือน ที่หายตัวออกจากบ้านจนเป็นข่าวดังซึ่งล่าสุด น.ส.นิ่ม แม่เด็ก รับสารภาพได้นำร่างของลูกชายไปทิ้งบริเวณคอลงหลังบ้าน ใกล้กับ แม่น่ำท่าจีน ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม

Advertisements

ล่าสุด ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ก็ออกมาเคลื่อนไหววันนี้ (27 ก.พ.2566) ให้ความเห็นในแง่มุมของการบังคับใช้กฏหมาย โดยเขียนเนื้อหาผ่านบัญชีโซเชียล ทนายคลายทุกข์ของตัวเองว่า

“ทั้งที่ยังไม่มีศพน่าคิดอยู่นะควรแจ้งหรือไม่อย่างไรลำพังเพียงคำรับสารภาพ เป็นแค่พยานบอกเล่าพอขึ้นศาลจำเลยก็กลับคำให้การถ้าไม่มีพยานหลักฐานอื่นประกอบที่แน่นหนาเพียงพอศาลก็ต้องยกฟ้องการดำเนินคดี”

“สำคัญต้องไปทำเหมือนการเล่นลิเก เดี๋ยวจะเหมือนกับคดีน้องชมพู่คดีแตงโมและอีกหลายคดีที่เป็นดราม่า สุดท้ายแล้วหาคนรับผิดไม่ได้เลยเป็นข้อถูกเถียง สนุกปากกันในโซเชียลเท่านั้น”

“ฝากเป็นข้อคิดจากทนายเดชาสอบถามข้อกฎหมาย 02-9485700 รู้กฎหมายกับทนายคลายทุกข์อย่าเชื่ออะไรง่ายง่ายฟังความให้รอบด้านความจริงในโซเชียลเป็นเรื่องของความเชื่อความจริงได้แล้วในชั้นศาลเป็นเรื่องของพยานหลักฐานและต้องปราศจากข้อสงสัยจึงจะเอาคนผิดมาลงโทษได้ฝากไว้แค่นี้ครับผมเป็นทนายไม่ใช่หมอดู”

Advertisements

ทั้งนี้ หลังโพสต์ให้ความเห็นกระบวนการเอาผิดเมื่อไปถึงชั้นศาลคดีแม่น้องต่อเด็กวัย 8 เดือน ที่ในเนื้อหาบางตอนมีการพาดพิงไปถึงคดีดังถึง 2 คดี ปรากฏก็ทำเอาบรรดาแฟนคลับและสังคมเกิดเสียงวิจารณ์ตามมาอีกจำนวนมาก อาทิ “น่าจะยังไม่แจ้งข้อหาฆ่าเพราะยังหาศพไม่เจอ”

“อันดับแรกแจ้งข้อหาให้การเท็จก่อน เพราะครั้งแรกให้การอีกอย่างนึง แล้วต่อไปให้การอีกอย่าง ก็แจ้งอีกครั้ง”

โหนกระแสวันนี้
ภาพ รายการโหนระแส

ขณะที่ ความคืบหน้าถึงตอนนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 ก.พ.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว นายสาน อายุ 58 ปี อาชีพรับจ้างเฝ้าบ่อปลา พ่อของน.ส.นิ่ม อายุ 17 ปี เดินทางมาที่ สภ.บางหลวง จ.นครปฐม เพื่อสอบปากคำ

ส่วน นายวินท์ สุธีรชัย ประธานมูลนิธิวินวิน เปิดเผยถึง กรณีน.ส.นิ่มว่า สิ่งที่พบในพื้นที่ตั้งแต่ชาวบ้านและน.ส.นิ่ม ไม่มีความเชื่อมั่นและไม่สบายใจที่จะคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐ มูลนิธิจึงมาเป็นผู้ประสานงาน จนเป็นที่มาที่ทำให้น.ส.นิ่ม ยอมเปิดใจกับเจ้าหน้าที่รัฐและตำรวจ

ต่อจากนี้ทางตำรวจจะพาน.ส.นิ่มไปสอบสวน หากพบการกระทำผิดจะต้องดำเนินการแจ้งความ ในกระบวนการจะมีทั้งอัยการ นักจิตวิทยา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้ามาร่วมทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเป็นไปตามกฎหมายทุกขั้นตอน.

ข่าวนิ่มแม่น้องต่อ (1)

ทนายคลายทุกข์ คดีน้องต่อ
ภาพ Facebook @ทนายคลายทุกข์

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button