ผู้ว่าฯล้อมคอกความปลอดภัยทางทะเล
วันที่ 16 มกราคม 61 ที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ พ.ต.ท.มล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่
เป็นประธานการประชุมผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเพื่อกำหนดมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนมาตรการก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการช่วยเหลือมากยิ่งขึ้นและสร้างความมั่นใจ แก่นักท่องเที่ยว พร้อมทั้งมีการจัดตั้งศูนย์กระจายข้อมูลข่าวสารในการทำหน้าที่ในการกระจายข่าวเหตุการณ์ ให้มีความถูกต้อง ผ่านระบบการสื่อสารต่างๆ ให้มีข้อมูลไปในทิศเดียวกันเพื่อไม่ให้เกิดความคลาดเคลื่อนก่อให้เกิดความเสียหาย
ด้านความคืบหน้าคดี พ.ต.ท.เชษฐพันธ์ วิชัยดิษฐ์ สวญ.สภ.เกาะพีพี กล่าว่า อยู่ระหว่างการพิสูจน์เครื่องยนต์เรือซึ่งเป็นชิ้นส่วนสุดท้ายที่เหลืออยู่ หาสาเหตุเรือเกิดไฟไหม้ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เรือขนาด250 ซีซี 3 เครื่อง สำหรับการตรวจสอบสาเหตุการระเบิดของเรือลำดังกล่าว ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเครื่องยนต์ที่ลากมาอย่างละเอียดก่อนแต่เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมตั้งข้อหาประมาทกับคนขับเรือและพนักงานในเรือ
เพราะหลังสอบปากคำทุกคนในเรือให้การตรงกันว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุคนขับเรือรู้ว่ามีกลิ่นน้ำมันลอยออกมา
แต่ยังขับเรือต่อไป แม้จะพยายามหาสาเหตุของกลิ่นน้ำมัน แต่ตำรวจระบุว่า
ในทางหลักการหากพบความผิดปกติและไม่สามารถแก้ไขได้ทันที ควรหาเรือมาสับเปลี่ยนนักท่องเที่ยวก่อน
ขณะที่ส่วนความเป็นไปได้สาเหตุที่จะทำให้เรือระเบิด จากข้อมูลก่อนหน้านี้ระบุว่า เรือระเบิดเพราะถังน้ำมันรั่ว
ด้านผู้เชี่ยวชาญเรือสปีดโบ๊ต ระบุว่า โอกาสที่ถังน้ำมันจะรั่วแม้จะเป็นไปได้น้อย แต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้น
โดยปัจจัยที่จะทำให้ถังน้ำมันรั่ว นอกจากการเรือถูกคลื่นขนาดใหญ่ซัดเรือ ก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้
หากผู้ดูแลเรือไม่ล็อคถังน้ำมันให้แน่นก่อนออกเดินเรือ ส่วนสาเหตุอาจเกิดจากสายน้ำมันรั่ว
ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการไม่ดูแลรักษา หรือไม่ได้ซ่อมบำรุงเมื่อถึงเวลาขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่เข้าตรวจสอบซากเรือ ระบุว่า การตรวจสอบสาเหตุเรือระเบิดยากพอสมควรเนื่องจากซากเรือส่วนใหญ่ลอยไปกับน้ำหมดแล้ว โดยเฉพาะตัวถังน้ำมัน สายน้ำมัน หรือสายไฟต่างๆการตรวจสอบหลังจากนี้อาจต้องเทียบเคียงกับเรือที่ใกล้เคียงกัน