ยังคลุมเครือ คดีเศรษฐีวัย 67 หนุ่มไปรษณีย์เล่าวันบุกช่วย ทนายเดชา โพสต์ระวังคดีโอละพ่อ

เฮียหมู 100 ล้าน ข่าว เศรษฐีวัย 67 ยังคลุมเครือ หนุ่มไปรษณีย์เล่านาทีวันบุกช่วย ได้จดหมายวอนพาหนีจากบ้านลูกชาย ตัดสินใจหลายครั้งก่อนโทรศัพท์นัดหลานสาว ด้าน ทนายเดชา โพสต์เตือนระวงัคดีโอละพ่อ รอแถลงข่าวคืนนี้
จากกรณี ข่าวเฮียหมู 100 ล้าน ที่มหาเศรษฐีวัย 67 ปี เข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา หลังอ้างว่าถูกลูกชายกับลูกสะใภ้พร้อมพวก กักขัง กรอกยาสลบหมูนานกว่า 2 ปี จัดฉากให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ ก่อนยื่นศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกแทนแม่ โอนถ่ายทรัพย์สินกว่า 65 ล้านบาท
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (14 ก.พ.66) นายบัง (นามสมมุติ) บุรุษไปรษณีย์ที่ช่วยเหลือเฮียเอ ออกมาให้ข้อมูลในวันที่ช่วยเหลือเศรษฐีเมืองแปดริ้วว่า ตอนแรกประมาณปี 63 ตนคิดว่าเฮียกับภรรยานั้นเสียชีวิตไปแล้ว เพราะได้ยินข่าวแต่ไม่ได้ไปงาน
คนส่งจดหมายหนุ่มยังเล่าด้วยว่า ตัวเองรู้จักกับทั้งเฮียเอและภรรยา รวมทั้งบุตรชายและสะใภ้ของเฮียเป็นอย่างดีเพราะบ้านพักอยู่ใกล้กันและได้เคยไปซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าประปาที่ร้านเฮียอยู่บ่อยครั้ง ต่อมาช่วงปลายปี 65 ได้ไปส่งจดหมายที่บริเวณหมู่บ้านๆ หนึ่ง ในอำเภอบ้านโพธิ์ ซึ่งห่างจากบ้านเดิมของเฮียประมาณ 10 กิโลเมตร ระหว่างที่ส่งจดหมายอยู่ ก็ได้ยินเสียงมีคนเรียกจึงหันกลับมาดูก็พบเป็นเฮียเอ
มาถึงตรงนี้ บุรุษไปรษณีย์ยอมรับว่าตกใจ เนื่องจาก 2 ปีก่อนมีข่าวว่าเฮียเอและภรรยาเสียชีวิตไปแล้ว อย่างไรก็ตามพอเข้าไปถามให้แน่ใจก็เชื่อว่าเป็นเฮียเอ แถมวันนั้นยังบอกให้ช่วยพาออกไปจากบ้าน แต่ตนเองไม่กล้าเพราะกลัวจะถูกข้อหาลักพาตัว เฮียเอ จึงใช้วิธีเขียนจดหมายฉบับหนึ่งฝากไปให้หลานซึ่งตนเองก็รู้จักดีจึงนำจดหมายฉบับนั้นไปมอบให้และมีการนัดหมายกันที่จะนำตัวเฮียออกมา แต่ปรึกษากับหลายๆ คนแล้ว ก็ไม่กล้าดำเนินการ เนื่องจากจะโดนข้อหาลักพาตัวกัน เนื่องจากเฮียแกอาศัยอยู่ลูกชาย

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้มาพบเศรษฐีที่ดูกำลังตกระกำลำบากอีกครั้งหนึ่งและยังยืนกรานให้พาหนี สุดท้ายหนุ่มไปรษณีย์ก็ได้โทรศัพท์หาหลานสาวของเฮีย จากนั้นให้คุยกันทางโทรศัพท์ กระทั่งมีการนัดแนะกันพาผู้เสียหายที่ตอนนี้ออกมาร้องทุกข์หลบหนีออกมาได้สำเร็จ และพามาอยู่กับพี่ชายเฮียเอ พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกักขังหน่วงเหนี่ยวและมีพฤติการณ์ที่ไม่ชอบมาพากลอีกหลายอย่างซึ่งจนถึงตอนนี้ยังต้องรอการสืบทราบข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด
โดยในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ทางทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ นักฏหมายที่เคยเป็นข่าวดังก็ออกมาเคลื่อนไหวแสดงความเห็นเกี่ยวกับข่าวปริศนาเศรษฐีวัย 67 ปี ถูกขังกรอกยานี้ด้วย โดยเนื้อหาในโพสต์บางส่วนของแฟนเพจทนายคลายทุกข์ คล้ายจะตักเตือนให้ระวังว่าคดีดังกล่าวจะเกิดเหตุการณ์ “โอละพ่อขึ้น”
“คดีจัดฉากฆาตกรรมลูกชายลูกสะใภ้กักขังพ่อฮุบสมบัติ 65 ล้าน ระวังโอละพ่อนะครับ ฟังหูไว้หู ข่าวลือคือข่าวจริงที่มาล่วงหน้า” ข้อคาวมจากเฟซบุ๊กแฟนเพจทนายคลายทุกข์ ซึ่งต่อมายังมีการอัปเดตความเคลื่อนไหวล่าสุดจากฝั่งของลูกชายผ่านโพสต์ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาด้วยว่า
“คดีจัดฉากฆาตกรรมที่แปดริ้วรอลูกชายลูกสะใภ้แถลงข่าว ก็น่าจะรู้ความจริงทั้งหมดคืนนี้ได้ข่าวว่าลูกสะใภ้จะเดินทางกลับจากฮ่องกง”.