เดือดระอุ “จตุพร พรหมพันธุ์” วิทยากร แกนนำคณะหลอมรวมประชาชนและ และอดีตประธานนปช. ล่าสุดได้มาย้ำชัดเรื่องราวแตกหักกับอดีตนายเก่า “ทักษิณ ชินวัตร” ที่เจ้าตัวบอกว่า ถึงขั้นสำลักเลือดออกมาผ่านรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 แถมมีเรื่องราวหลายมุมมองที่เกินคาด และยังไม่รวมเรื่องเส้นทางอดีตทางการเมือง เมื่อ 9 ปีที่แล้วของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ที่วางกลยุทธ์พรางความชอบธรรมขึ้นแท่นนายกฯ
ประทานโทษนะคะ หลังจากนี้ต้องเล่นการเมืองนอกสนามใช่ไหมคะ?
ความเป็นจริงเนี่ยนะครับ การเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือการเมืองภาคประชาชน ผมผ่านถนน และผ่านสภา และก็เห็นว่าไม่มีอะไรใหญ่กว่าการเมืองบนท้องถนนคือการเมืองของประชาชน
พูดแบบนี้ได้ไหมว่า พี่จตุพรคืออดีตแกนนำ นปช.?
คำว่าแกนนำเป็นคำสมมุติ ผมพูดมาตลอดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ติดตัวไปจนตาย ตราบใดที่เรายืนหยัดการต่อสู้ ที่เขาเรียกว่าแกนนำ แต่ว่าไม่ใช่เป็นตำแหน่งหรือสมบัติติดตัวไปตลอดชีพ
คำว่าแกนนำ แต่เขาบอกกันว่า มันมีทั้งนำไปในทางดี และในทางเลว?
มันอยู่ที่มุมมองนะครับ และที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวเราเอง เราต้องรู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว ต้องรู้ทั้งดี รู้ทั้งชั่ว นั่นคือสถานะในห้วงเวลาหนึ่ง ณ คำสมมุติว่าเป็นแกนนำ
พี่จตุพรคะ แกนนำเก่าของคุณพี่วงแตกแล้วไม่ใช่เหรอคะ?
คือมนุษย์สองคนอยู่เกินสามวันนะครับ ก็มีอะไรเห็นต่างกัน ในเวลาหนึ่งอาจจะเห็นเหมือนกัน ในเวลาหนึ่งอาจจะเห็นแตกต่างกัน เป็นสัจธรรมของมนุษย์ ไม่ว่าจะอยู่ในวงการเมือง นักเคลื่อนไหว หรืออาชีพอื่นใด จะเป็นแบบนี้เหมือนกันหมด เป็นสัจธรรมของชีวิต
แต่ยังคบค้าหาสู่กันอยู่หรือไม่คะ?
เท่าที่จำเป็น
ขออนุญาตเรียนถามคุณพี่แรมโบ้ได้ไหม คุณจตุพร และคุณแรมโบ้ยังรักใคร่กลมเกลียวกันไหมคะ?
แรมโบ้ เขาเป็นเพื่อนตอนเรียนรามคำแหง และเขามาอยู่ไทยรักไทย พลังประชาชน พรรคเพื่อไทย จนกระทั่งมาเป็นกระบวนการของพี่น้องในการต่อสู้นะครับ หลังจากนั้นก็แยกย้ายไป เขาก็ไปอยู่กับพลเอกประยุทธ์ ผมก็อยู่กันตรงกันข้ามกับพลเอกประยุทธ์ ก็มีบางจังหวะที่ฟาดฟันกัน เพราะแรมโบ้ต้องออกมาปกป้องประยุทธ์ ผมก็ต้องกระแทกกับแรมโบ้เพื่อให้ถึงพลเอกประยุทธ์นั้นเป็นการทำหน้าที่ระหว่างกัน
ทำไมคุณแรมโบ้เขาไปรักสวามิภักดิ์ลุงตู่ขนาดนั้นคะ?
มนุษย์เราความรักโลภโกรธหลงเนี่ยมันจะไม่เท่ากัน แรมโบ้เขารักพลเอกประยุทธ์ ผมไม่ได้รักพลเอกประยุทธ์ด้วย นี่ก็เป็นความรู้สึกเฉพาะตัวของมนุษย์ หมายความว่า ผมไม่ต้องการจะบอกว่า คนเราไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน แม้ว่าเคยรู้จักกันในบางเวลา เห็นเหมือนกัน แต่บางเวลาก็เห็นต่างกัน ก็เป็นสัจธรรมหนึ่งว่า วันที่แรมโบ้ไปอยู่กับพลเอกประยุทธ์ ผมก็อยู่ตรงข้ามกับพลเอกประยุทธ์ แต่ผมไม่มีเรื่องส่วนตัวใดๆกับพลเอกประยุทธ์ และแรมโบ้
ถ้าเดี๊ยนไม่รู้ โง่ๆ เซ่อๆ เดี๊ยนจะคิดว่าที่คุณพี่แรมโบ้เขาไป เพราะคุณลุงตู่เขาเงินถึง น่าเกลียดไหมที่เดี๊ยนคิดแบบนั้น?
มันอยู่ที่มุมมอง และเป็นหน้าที่ของแรมโบ้เอง ต้องตอบคำถามนี้ แต่มุมของผม ปมไม่ไปกับพลเอกประยุทธ์ และก็ต่อต้านพลเอกประยุทธ์ ช่วงพลเอกประยุทธ์ผมติดคุกมาแล้ว 3 รอบนะ
มันเป็นความผิดของคุณพี่เอง หรือคุณพี่คิดว่าเป็นความจงเกลียดจงชังของคุณประยุทธ์ เขาเลยทำกับคุณพี่คะ?
ผมไม่ได้มีอะไรส่วนตัวกับพลเอกประยุทธ์ โดยส่วนตัวไม่มีความขัดแย้งใดๆ เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวเลย แต่เป็นเรื่องของความเชื่อในการทำหน้าที่ และที่มาของพลเอกประยุทธ์ และการดำรงอยู่ของพลเอกประยุทธ์ซึ่งจะแตกต่างจากความเชื่อของผม ผมเชื่อในหลักการประชาธิปไตย แต่พลเอกประยุทธ์เชื่ออีกอย่างหนึ่ง ก็เป็นเสรีภาพของพลเอกประยุทธ์ และขณะเดียวกันก็เป็นเสรีภาพของผมที่จะไม่เห็นด้วยกับพลเอกประยุทธ์
คุณจตุพรพูดมา แสดงว่าท่านประยุทธ์ไม่ใช้หลักการแบบประชาธิปไตยเหรอคะ?
เป็นประชาธิปไตยที่ต่ำกว่าครึ่งใบ เพราะฉะนั้นประชาธิปไตยไม่ใช่เป็นการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง พลเอกประยุทธ์ช่วงแรกก็ใช้รถถังยึดอำนาจ แล้วต่อมาผ่านกระบวนการเลือกตั้งที่ไม่เต็มใบ เพราะฉะนั้นประเทศไทยเราไม่เคยมีประชาธิปไตยที่แท้จริง ตามหลักของประชาธิปไตยแม้แต่เพียงวันเดียวตั้งแต่ 9 10 ปีที่ผ่านมาทั้งหมด
มีคนเขาบอกแบบนี้ วันนั้นบ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ถ้ารถถังไม่ออกมา คุณพี่ประยุทธ์ไม่ออกมาทุบโต๊ะ บ้านเมืองจะสงบสุขแบบนี้เหรอคะ?
ความเป็นจริง พลเอกประยุทธ์ตั้งใจจะยึดอำนาจตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ผมอยู่ที่อักษะ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณก็อยู่ที่ราชดำเนิน ราชประสงค์ ปทุมวัน ห่างไกลกันจำนวนเกือบร่วม 100 กิโล ไม่มีอะไรที่จะกระทบกระทั่ง จนกระทั่งพลเอกประยุทธ์ชวนไปประชุม และก็จับในที่ประชุม แล้วก็ประกาศยึดอำนาจ ดังนั้นเป็นความตั้งใจของพลเอกประยุทธ์ที่ต้องการยึดอำนาจอยู่แล้ว เพียงแต่อ้างเรื่องความขัดแย้งของประชาชน และตัวเองในฐานะผู้รักษาความสงบ จึงเป็นการกล่าวอ้างเพื่อความชอบธรรม ก็สงบราบคาบมาแล้ว 8 9 ปี จนกระทั่งวิเวก โหวงเหวงถึงปัจจุบัน
คุณณัฐวุฒิล่ะ ยังคบกันอยู่ไหมคะ?
เรายังมีคดีร่วมกันอยู่หมายความว่าเจอในเวลาที่ขึ้นศาลกัน ทางการเมืองก็ไปตามความเชื่อของตัวเองนะครับ บางเวลาเราอาจจะเชื่อเหมือนกัน แต่ในความเป็นพี่เป็นน้อง อย่างไรบนสนามต่อสู้ อย่างไรก็ขาดจากกันไม่ได้
จริงไหมคะ มีคนบอกว่าสองคนกับณัฐวุฒิยังไม่รวมตัวกันเป็นเกมการเมือง พอสัมฤทธิ์ผลก็ไปจับมือกัน?
ผมไม่เหมือนพลเอกประยุทธ์ กับพลเอกประวิตร ผมมีจุดยืนของผมชัดเจนนะครับ ดังนั้นสถานการณ์นี้ จะไม่มีวันจะเกิดขึ้น เพราะว่าผมตัดสินใจของผมแล้ว ณัฐวุฒิก็ตัดสินใจของตัวเองแล้ว เพราะฉะนั้นในเส้นทางความเชื่อทางการเมืองก็เดินทางเป็นทางคู่ขนาน ไม่มีวันจะไปบรรจบ
แต่คู่ขนาดที่คุณจตุพรพูด เขาบอกกันว่ามันคือการขัดผลประโยชน์ แบ่งอะไรกันก็ไม่รู้ที่ไม่รู้ตัว จริงไหมคะ?
เราถูกคนที่เรานับถือ เขาต้องการที่จะแบ่งแยก และก็ทำความสำเร็จแล้ว เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเป็นความสำเร็จคนที่เรานับถือเอาชีวิตเข้าแลกในเมื่อเขาต้องการให้เป็นอย่างนี้ แล้วทุกคนเขาเชื่อว่าหนทางนี้ดีที่สุด ก็แยกย้ายกันไป ไม่มีปัญหาอะไร
คุณพี่จตุพรกำลังจะบอกว่าถูกหักหลังเหรอคะ?
ตลอดระยะเวลาอยู่แล้ว ในสนามการต่อสู้มีเรื่องราวมากมาย ผมเป็นคนโชคร้ายอย่างหนึ่งคือว่า ในการต่อสู้ผมประเภทคำไหนคำนั้น เพราะฉะนั้นเขาจะไม่มีวันจะชอบคนทำตามคำพูด หรือข้อตกลงนะครับ ผู้มีอำนาจไม่ว่าในกลุ่มตัวเอง หรือจะมีอำนาจอื่นใดก็ตาม เขาชอบคนประเภทรับคำสั่ง แล้วสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาซึ่งไม่ใช่ผม
สรุปว่าจตุพร พรหมพันธุ์จะไม่มีสิทธิ์ข้องแวะกับคำว่า “พรรคเพื่อไทย” ใช่ไหมคะ?
ผมไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยมานานแล้ว เพราะว่าผมถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง หมายความว่าหลังผมต้องคำพิพากษาผมอยู่ในคุก ในรอบหลังของพลเอกประยุทธ์ผมติดคุก 3 ครั้ง ก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ผมเข้าออกคุกมาแล้ว 5 ครั้ง ดังนั้นวันนี้ผมไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และทางกฎหมายผมไม่สามารถเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นใดได้ และจุดผมกับพรรคเพื่อไทยก็ถึงทางแยกกันเด็ดขาดอยู่แล้ว
ตอนนี้คุณจตุพรกับอดีตนายกทักษิณแตกหักกันเลยไหมคะ?
แตกหักกันครับ เพราะว่าผมกับนายกทักษิณขาดปีเดียวรู้จักกันมา และทำงานกันมาครบ 30 ปี วันหนึ่งท่านพูดถึงผมเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เรื่องกรณีการเลือกตั้ง อบจ.จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผมไปยืนให้กับอีกคนหนึ่งเป็นคนของพรรคเพื่อไทยเดิมที่เขาไปติดคุกเรื่องประชามติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ นายกทักษิณและพรรคเพื่อไทยไปเอาอีกคนหนึ่ง ก็เป็นความเห็นที่ต่างกัน ท่านไปพูดกับคนที่ไปพบท่านว่า “จตุพรมันเห็นแก่เงินไปรับเงินผู้สมัครนายก อบจ.” ซึ่งทำให้ความรู้สึกของผม ที่ผมบอกว่าผมกลืนเลือดมาถึงคอหอยแล้ว คำพูดเพียงไม่กี่พยางค์เนี่ย สำลักเลือดความสัมพันธ์ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา
ผมอดทนทั้งรัก ทั้งชัง ทั้งหวานและขมขืนนะครับ มันเลยสำลักเลือดออกมาถึงจุดที่ต้องแตกหักกัน เพราะบุญเลิศเป็นลูกน้องเก่านายกทักษิณ ฐานะทางเศรษฐกิจ ไม่ได้เศษเสี้ยวกับนายกทักษิณ แต่ผมเห็นว่าตอนที่เขาถูกขัง ผมไปเยี่ยมเขาทุกวัน เขาถูกขังต่อหน้าต่อตาผม และ 10 กว่าปีนี้ในกระบวนการต่อสู้ เวลาไปเชียงใหม่เนี่ย เขาก็ยืนหยัดเคียงข้าง วันหนึ่งพอเขาได้รับชะตากรรม พรรคทิ้งเขา รุมเขาทั้งพรรค ผมไปยืนข้างเขาเป็นจุดแตกต่างกับผม กับนายกทักษิณ แต่พอนายกทักษิณมาทำซ้ำ ผมเป็นคนบางเวลาก็ทนได้ แต่ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์มันจ่อคอหอยแล้ว
เห็นอดีตนายกเขาบอกว่า จะโดนเห่าสัก 2 3 ตัวคงไม่เป็นอะไร แล้วคุณพี่กลับไปตอบว่าถ้าว่าผมเป็นหมา คุณพี่ก็เป็นหัวหมา เรื่องนี้คืออย่างไรคะ?
ผมกับนายกทักษิณรู้จักกันมาตั้งแต่พรรคพลังธรรมปี2537 ปราศรัยเวทีเดียวกัน ในไทยรักไทยก็ปราศรัยในเวทีเดียวกันก่อนที่ท่านถูกยึดอำนาจ และหลังจากนั้นท่านผ่านระบบวีดีโอลิงค์ ก็เวทีเดียวกัน ถ้าการพูดของผมเป็นการเห่า ท่านก็เห่าไม่แตกต่างจากผมครับ ถ้าผมเป็นหมาท่านก็หมา ที่ผมบอกว่าถ้านับบรรดาศักดิ์ท่านก็ถือว่าเป็นจ่าฝูงหัวหน้าหมา แต่ว่าหมามันมีคุณสมบัติเดียวของความเป็นหมาคือความซื่อสัตย์ จึงใช้คำพูดแรงๆว่าท่านยังเป็นหมาไม่ได้เลย
สุดท้ายคุณจตุพรได้บอกประชาชนถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า “การเลือกตั้งครั้งต่อไป มันคืออนาคต คนที่กำหนดอนาคตคือตัวเราเอง คือประชาชน เราต้องการให้ประเทศเป็นเช่นไร ประวัติศาสตร์ก็บอกอยู่แล้วว่าเลือกอย่างไรก็จะได้อย่างนั้น เพราะฉะนั้นเราต้องการอย่างไร เราเป็นผู้กำหนด ประชาธิปไตยอำนาจอยู่ที่เรา ไม่ใช่ความสัมพันธ์ในกี่วินาทีในหีบบัตรเลือกตั้ง แต่ความสัมพันธ์นี้มันต้องอยู่จนกระทั่งเราได้ผู้ปกครองที่ดี มีความสามารถ และสามารถแก้วิกฤตของชาติได้ ไม่ใช่ผู้ปกครองที่ไม่ชอบธรรม และอยุติธรรม ไม่สุจริต เราต้องการการเมืองที่มันถูกต้อง ที่ดีงาม และสุจริตที่มีความสามารถครับ” แฟนๆสามารถไปรับชมแบบจุใจได้ ทุกประเด็นเคลียร์ชัดก่อนใครได้ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ออกอากาศทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 16.00 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27 และทางยูทูบช่อง 8 https://youtu.be/PRwFo9we1Kk เท่านั้น
