พิ้งกี้ สาวิกา เผยสภาพจิตใจครั้งแรก หลังผ่านพ้นมรสุมปัญหาชีวิต ปมคดีฉ้อโกงแชร์ FOREX-3D จนต้องขายขายบ้าน ล่าสุดได้รับการปล่อยตัว-ปลดกำไล EM ชั่วคราว
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 “พิ้งกี้ สาวิกา” หรือ “สาวิกา ไชยเดช” นักแสดงสาว จำเลยที่ 7 คดีฉ้อโกงแชร์ FOREX-3D ออกมาเปิดใจครั้งแรก หลังจากเมื่อวันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ศาลอาญาอนุญาตให้ขอปล่อยตัว และปลดกำไล EM ชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี พร้อมเงินประกัน 5 ล้านบาท
ทั้งนี้ “พิ้งกี้ สาวิกา” ได้ปรากฏตัวบนสื่อครั้งแรกหลังเงียบหายมาถึง 2 เดือนอีกครั้ง ในงานพิธีบวงสรวงภาพยนต์เรื่อง “กุมาร” ด้วยเสื้อสูทสีขาว พร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส หลังจากที่ได้ยื่นคำร้องขอความเมตตาต่อศาล เพื่อรับการปล่อยตัวและปลอดกำไล EM ชั่วคราว เมื่อวันอังคารที่ 31 มกราคม 2566 เพื่อความสะดวกในการทำงาน
อย่างไรก็ตาม การกลับมาสู่วงการบันเทิงอีกครั้งของ พิ้งกี้ สาวิกา สำหรับการแสดงงานแรกในภาพยนตร์เรื่อง “กุมาร” เจ้าตัวเปิดใจกับสื่อมวลชนครั้งแรกว่ามีการปรับตัวระยะหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ตื่นเต้นมากนัก เพราะบรรยากาศยังคงเหมือนเดิม ส่วนทางด้านจิตใจก็ได้เข้าไปปฏิบัติธรรมมา ส่งผลให้สงบมั่นคงยิ่งขึ้น พร้อมทั้งได้เรียนรู้และทบทวนประสบการณ์ชีวิตมากมาย
ทางพิ้งกี้ สาวิกา ก็ได้เผยความรู้สึกหลังกลับมาทำงานในรอบหลายเดือนว่า ตนเองไม่ได้วิตกกังวลถึงเรื่องที่ผ่านมามากนัก แบ่งว่างานเป็นงาน แสดงความเป็นมืออาชีพออกมาให้ได้ประจักษ์ พร้อมกับกล่าวทิ้งท้ายเตือนสติทุกคนถึงการรับมือกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต ว่าให้มีความศรัทธา ความมั่นใจในตัวเองให้หนักแน่นที่สุด และชี้แจงเรื่องข้องใจทั้งหมด ว่าคุณแม่ของพิ้งกี้ ไม่ได้เล่นการพนันใด ๆ ส่วนบ้านก็ขายไปนานมากแล้ว โดยเป็นบ้านที่ซื้อให้คุณพ่อคุณแม่
ในส่วนของข้อสงสัยเกี่ยวกับกำไลข้อมือ EM อาจมีการให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนก็ขอความกรุณาศาล เพราะติดเรื่องของการจะมาถ่ายทำภาพยนตร์ “กุมาร” โดยจะถอดกำไล EM แค่เฉพาะตอนถ่ายทำในกองถ่าย หลังจากถ่ายทำเสร็จแล้วก็จะกลับมาสวมกำไลตามเดิม ก็ได้ทำการขอศาลไว้จนกว่าจะเสร็จสิ้นงาน ซึ่งอาจกินเวลานานถึง 6 เดือน ทั้งนี้การปลดกำไล EM ดังกล่าวขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลในการพิจารณาแต่ละเคส แต่ว่าข้อมูลทางสื่อบางท่านอาจจะได้ไปคลาดเคลื่อนหรือไม่ครบถ้วนนั่นเอง
ทางฝั่งของ ทนายความ นายทรงพล อันนานนท์ ชี้แจงว่าเรื่องทั้งหมดขึ้นอยู่กับกระบวนการทำงานของศาลยุติธรรม โดยจะเริ่มกลับมาพิจารณาคดีอีกครั้งในเดือน สิงหาคม 2566 นี้ในศาลชั้นต้น ถึงกำหนดการสิ้นสุดกระบวนการของศาลในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ปีหน้า เป็นไปได้ว่าอีก 2-3 เดือน อาจมีคำพิพากษาออกมา และให้รอติดตามการยื่นอุทธรณ์หรือฏีกาที่อาจเกิดขึ้นในภายภาคหน้า
