ข่าวข่าวภูมิภาค

รวบ 2 กู้ภัย ขโมยเครื่อง AED ไปขายต่อ กำไรหลักพัน

จากกรณี ขโมยเครื่อง AED 27 เครื่อง ล่าสุดตำรวจรวบกู้ภัย 2 คนที่เป็นผู้ก่อเหตุแล้ว พบว่าคนหนึ่งขโมยไปขายต่อคนหนึ่ง ส่วนอีกคนก็เอาเครื่องไปขายต่ออีกที

พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงคืบหน้ากรณีขโมยเครื่อง AED หรือ เครื่องกระตุกหัวใจ ที่ถูกขโมยไป 27 เครื่องว่า ล่าสุดจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 2 ราย ได้แก่ นายรุ่งโรจน์ ละออแช่ม หรือ เหน่งตาเดียว อายุ 37 ปี และนายวีรยุทธ นนท์ปาน หรือแจ็ค ซึ่งเป็นอาสากู้ภัยมูลนิธิแห่งหนึ่ง

จากการตรวจสอบพบว่า นายรุ่งโรจน์ จะทำหน้าที่ขโมยเครื่องกระตุกหัวใจ และส่งให้นายวีรยุทธ ทำหน้าที่กระจายของออกขาย ไปให้กับกลุ่มอาสาสมัครที่ต้องการซื้อผ่านทางออนไลน์ หรือการบอกปากต่อปาก โดยพฤติการณ์ก่อเหตุ นายรุ่งโรจน์จะเป็นผู้ลักทรัพย์มาและนำมาขายให้กับนายวีรยุทธ ในราคาเครื่องละ 12,000 บาท ก่อนที่นายวีรยุทธ จะขายกระจายออกไปให้กับกลุ่มอาสาสมัคร ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในราคา 13,000-15,000 บาท อีกทอดหนึ่ง ทั้งนี้ราคาของเครื่อง AED จริงๆอยู่ที่ 7 หมื่นบาท

ขณะนี้สำหรับเครื่องกระตุกหัวใจที่เครือข่ายที่ 1 รับสารภาพว่าก่อเหตุไป มี ทั้งสิ้น 6 จุด 6 เครื่อง สามารถติดตามกลับมาได้แล้ว 4 เครื่อง อีก 2 เครื่องอยู่ระหว่างประสานให้นำเข้ามาส่งคืน ทราบว่าขณะนี้อยู่ระหว่างเดินทางมา นอกจากนี้มีผู้ที่นำเครื่องกระตุกหัวใจดังกล่าวมาคืนไว้ที่ สน.ตลิ่งชัน จำนวน 7 เครื่อง

พลตำรวจตรีธีรเดช ยังระบุอีกว่า ขณะนี้ พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีการสั่งการให้ทางกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามเครื่องกระตุกหัวใจที่สูญหายไปทั้งหมดเนื่องจากเหตุเกิดในหลายพื้นที่ และเพื่อความสะดวกแก่การติดตามจับกุมและการดำเนินคดี โดยขอฝาก ประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนหากท่านใดพบเห็นเครื่องกระตุกหัวใจลักษณะดังกล่าวมีการบอกขายจากกลุ่มคนใดให้ส่งข้อมูลมาทางกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ทันที

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายรุ่งโรจน์ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ส่วนนายวีรยุทธแจ้งข้อหารับของโจร โดยทั้งสองเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิแห่งหนึ่ง ซึ่งทั้งสองให้การรับสารภาพว่าทำไปเพราะต้องการเงินเมื่อเห็นว่าสามารถหาเงินจากช่องทางนี้ได้จึงก่อเหตุซ้ำ ส่วนเครือข่ายที่สองมีข้อมูลทราบเช่นกันว่าเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิเช่นเดียวกันขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี.

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button