ข่าวภูมิภาค

จับโจ๋ก่อเหตุฉกกระเป๋านักท่องเที่ยวที่หาดกะรน ได้ไอโฟน 2 เครื่องและเงินสดกว่า 3 พันบาท

เมื่อเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กะรน ภายใต้การอำนวยของ พ.ต.อ.สัญญา ทองสวัสดิ์ ผกก.สภ.กะรนพ.ต.ท.ประเทือง ผลมานะ รองผกก.สภ.กะรน พ.ต.ต.วิชัช คงทาไหว สวป.สภ.กะรน นำโดย ร.ต.อ.พิชญุตม์ ศรีนาค รองสวป.สภ.กะรน ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร 20 และเจ้าหน้าที่สายตรวจสภ.กะรน ร่วมกับ นายสุทัศน์ โวหาร อายุ 40 ปี ผู้ประกอบการให้เช่าเรือเจ๊ตสกีหาดกะรน และ นายเลอเดช สันโดษ อายุ 40 ปี ผู้ประกอบการให้เช่าเรือเจ๊ตสกี ร่วมกันจับกุม นายยุรนันท์ สกุลดี อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 ถ.สองพี่น้อง ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์ไอโฟน จำนวน 2 เครื่อง เงินสด 3,165 บาท กระเป๋าสะพายสีดำ จำนวน 1 ใบ และกระเป๋าสตางค์ จำนวน 2 ใบ โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณชายหาดกะรน (หน้าโรงแรมฮิลตัน) ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต

สำหรับพฤติการณ์ในการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายสุทัศน์ฯ และ นายเลอเดชฯพบเห็นนายยุรนันท์ ผู้ต้องหา เดินวนเวียนอยู่ที่ชายหาดกะรนที่บริเวณนักท่องเที่ยววางกระเป๋าไว้บนชายหาดแล้วนักท่องเที่ยวได้ลงไปเล่นน้ำผิดสังเกต ต่อมาเห็นนายยุรนันท์ ผู้ต้องได้หยิบกระเป๋าสะพายสีดำของนักท่องเที่ยวที่วางอยู่แล้วเดินออกมาจากชายหาดอย่างรวดเร็วโดยเดินออกมามุ่งหน้าถนนกะรน จากนั้น นายสุทัศน์ฯ และ นายเลอเดชฯ จึงได้ตะโกนออกไปว่า “หยิบกระเป๋านักท่องเที่ยวทำไม” นายยุรนันท์ ผู้ต้องหาได้ยินและถือกระเป๋าดังกล่าววิ่งหนี ทาง นายสุทัศน์ฯ และ นายเลอเดชฯ จึงได้วิ่งไล่ติดตามใกล้ถึงตัวนายยุรนันท์ นายยุรนันท์จึงโยนกระเป๋าทิ้งไว้ที่พงหญ้าข้างทางห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 30 เมตร และนายยุรนันท์ถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด จากนั้นพลเมืองดีได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปสอบสวนที่สภ.กะรน โดยทราบว่ากระเป๋าดังกล่าวเป็นของนักท่องเที่ยวสามีภรรยาชาวรัสเซีย

ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรนได้เฝ้าติดตามตรวจสอบพฤติกรรมมานานแล้ว แต่ยังไม่สามารถจับกุมได้

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ของผู้อื่น พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสภ.กะรน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนั้น ทางนักท่องเที่ยวได้กล่าวขอบคุณพลเมืองดีทั้ง 2 คนที่ร่วมกับจับกุมคนร้ายได้ ไม่เช่นนั้นจะสูญเสียทรัพย์ไปอย่างแน่นอน และยืนยันจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button