ข้อห้ามวันตรุษจีน 8-10 กุมภาพันธ์ 2567 ห้ามทำอะไรบ้าง รวม 15 ข้อกำหนดกฎเกณฑ์ หลีกเลี่ยงความโชคร้ายต่างๆ เพื่อรับความเฮงตลอดปีนี้
เปิดที่มาความเชื่อข้อห้าม วันปีใหม่จีน หรือ วันตรุษจีน เทศกาลที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากของคนไทยเชื้อสายจีน โดยปีนี้วันตรุษจีนจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ ไปจนถึงวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567
ชาวจีนทั่วโลก รวมไปถึงคนไทยเชื้อสายจีนทุกคน จะเริ่มตั้งมั่นทำแต่สิ่งดีงามใน “วันตรุษจีน” และหลีกเลี่ยงข้อห้ามต่าง ๆ ที่ปฏิบัติกันมารุ่นสู่รุ่น ไม่ว่าจะเป็นห้ามทำความสะอาดบ้าน ห้ามสระผม ห้ามร้องไห้ เพราะเชื่อกันว่าหากปฏิบัติตามข้อห้ามดังกล่าวจะส่งผลต่อโชคลาภในทางที่ไม่ดี วันนี้ทีมงาน The Thaiger ได้รวบรวม 15 ข้อห้ามในวันตรุษจีน ที่ห้ามทำเป็นอันขาดเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งไม่ดีที่จะเข้ามาหาตัวเรา จะมีอะไรบ้างเข้ามาอ่านในนี้กันได้เลย
1. หลีกเลี่ยงการพูดถึงสิ่งที่ไม่ดี
การพูดสิ่งที่ไม่ดีในวันขึ้นปีใหม่ของจีน ถือเป็นข้อห้ามอันดับแรกๆ เพราะถ้าเราพูดแต่สิ่งไม่ดีในวันตรุษจีน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความตาย ผีสาง เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย ความสูญเสีย รวมถึงการพูดคำหยาบและทะเลาะกับผู้อื่น คนจีนเชื่อว่าคำพูดนั้นจะอยู่ติดตัวเราไปตลอดทั้งปี แต่ถ้าเราพูดแต่สิ่งดีๆ เรื่องราวดีๆในวันตรุษจีน เราก็จะเจอแต่เรื่องดีๆตลอดปีอย่างแน่นอน
2. ไม่ควรเข้าห้องนอนของคนอื่น
ในวันตรุษจีนที่บรรดาญาติต่างถิ่นจะมารวมตัวเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลด้วยกัน เราห้ามเข้าห้องนอนของคนอื่นเป็นอันขาด เพราะการเข้าห้องนอนของคนอื่นจะทำให้โชคร้าย ควรหลีกเลี่ยงการเข้าห้องนอนของคนอื่นและรวมตัวกันในห้องรับแขกเท่านั้นเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนแต่เรื่องดี ๆ
3. อย่ากินโจ๊กหรือข้าวต้มในมื้อเช้า
เพราะโจ๊กและข้าวต้มถือเป็นอาหารของคนยากจน คนจีนจึงมีความเชื่อว่าเราไม่ควรทานอาหารจำพวกโจ๊กและข้าวต้มในช่วงตรุษจีน ถ้าอยากรวยอยากเฮงก็ต้องทานอาหารของคนรวย ดังนั้น คนจีนบางส่วนจึงหลีกเลี่ยงการทานอาหารเมนูที่สื่อถึงความยากจนแล้วเลือกทานอาหารหรูแทนการทานโจ๊กในมื้อเช้าของวันตรุษจีนเพื่อความเป็นสิริมงคล
4. ห้ามทำความสะอาดบ้าน
ปกติแล้วในวันตรุษจีนมักจะไม่มีการกวาดบ้านจนกว่าจะถึงวัน “วันชิวสี่” หรือวันที่สี่ของเทศกาล เนื่องจากคนจีนมีความเชื่อว่าหากกวาดบ้านในวันตรุษจีนแล้วจะถือว่าเป็นการปัดเป่าสิ่งดีๆออกไป สิ่งร้ายๆจะเข้ามานั่นเอง ดังนั้นเราจึงควรดูแลทำความสะอาดบ้านก่อนจะถึงวันตรุษจีนหรือทำความสะอาดบ้านในวันชิวสี่ เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะรับสิ่งชั่วร้ายเข้ามาในบ้าน การทำความสะอาดบ้านจึงกลายเป็นข้อห้ามไปโดยปริยาย
5. ห้ามสระผมเป็นอันขาด
การสระผมถือเป็นหนึ่งในข้อห้ามที่ควรปฏิบัติในช่วงตรุษจีนอย่างมาก ช่วงก่อนตรุษจีนควรจะสระผมให้เรียบร้อยตั้งแต่ก่อนวันเที่ยว ห้ามสระผมในวันตรุษจีนเป็นอันขาด เนื่องจากเทพเจ้าแห่งสายน้ำเกิดในวันตรุษจีน นอกจากนี้ในภาษาจีนคำว่า “ผม” (发) พ้องเสียงกับคำว่า “ความมั่งคั่ง” (发财) จึงไม่ควรสระผมในวันตรุษจีน เพราะการสระผมจะเป็นการชำระล้างสิ่งดีๆและโชคลาภออกไปทั้งหมด ถ้าอยากมีแต่สิ่งดีๆไปตลอดปี ห้ามสระผมในวันตรุษจีน
6. อย่ากินยาในวันตรุษจีน
การกินยาถือเป็นข้อห้ามอย่างหนึ่งในวันตรุษจีน ถ้าไม่อยากเจ็บป่วยไปตลอดปีอย่ากินยาในวันตรุษจีนเด็ดขาด เพราะคนจีนมีความเชื่อว่าการกินยาในวันขึ้นปีใหม่ถือเป็นลางร้ายที่มาเตือนว่าในปีนี้จะมีแต่เรื่องเจ็บป่วย มีปัญหาสุขภาพตามมาไม่ขาด
7. ห้ามทำแก้วแตก
อย่าทำแก้วแตกในวันตรุษจีนเด็ดขาด เพราะคนจีนเชื่อว่าหากทำของแตกจะถือเป็นลางร้าย ไม่มีโชคลาภในปีนี้ หากทำแก้วแตกต้องห่อด้วยกระดาษแดงทันที เมื่อหมดวันตรุษจีนให้โยนเศษแก้วที่แตกลงแม่น้ำหรือทะเลสาบ
8. ห้ามทวงหนี้และห้ามยืมเงิน
ในวันตรุษจีนควรเริ่มต้นด้วยสิ่งดีๆ การทวงหนี้ถือเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรทำ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนทุกคนควรจะมีความสุขอย่างเต็มที่ ไม่ควรมีเรื่องให้กังวลใจเกี่ยวกับเรื่องเงินทอง หากยืมเงินใครก็จะต้องเป็นหนี้เป็นสินไปตลอดปี ขณะเดียวกันก็ไม่ใครให้ยืมเงิน เพราะคนจีนมีความเชื่อว่าหากเราให้ใครยืมเงินแล้ว เราจะต้องถูกยืมเงินไปตลอดทั้งปีนั่นเอง ฉะนั้นแล้วห้ามทวงหนี้และห้ามยืมเงินเด็ดขาด
9. ห้ามร้องไห้
เทศกาลตรุษจีนถือเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนควรจะมีความสุข หากร้องไห้หรือมีเรื่องเสียใจเกิดขึ้นในวันตรุษจีน เราอาจจะโชคร้ายและมีเรื่องให้เสียใจไปตลอดทั้งปี ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงเรื่องที่ไม่ดีไว้ก่อนจะได้ไม่เจอเรื่องที่ไม่ดีตั้งแต่ต้นปี
10. ลูกสาวที่แต่งงานแล้วห้ามเข้าบ้าน
อีกหนึ่งในข้อห้ามที่พึงปฏิบัติกันมานาน ถ้าหากว่าบ้านไหนมีลูกสาวที่แต่งงานแล้วห้ามเข้าบ้านในวันแรกของช่วงตรุษจีนเป็นอันขาด เพราะลูกสาวถือเป็นคนในครอบครัวไปแล้ว ดังนั้น ลูกสาวควรจะกลับมาเยี่ยมครอบครัวในวันที่สองของเทศกาล ถ้าหากว่ากลับมาในวันแรก คนจีนมีความเชื่อว่าโรคภัยไข้เจ็บจะมาเยือนพ่อแม่ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อนี้ถือเป็นความเชื่อที่โบราณแล้ว สมัยนี้อาจไม่ถือกันเท่าไหร่นัก
11. ห้ามซื้อรองเท้าใหม่
เนื่องจากคำว่า “รองเท้า” ในภาษาจีนกวางตุ้ง คือ “Hai” ซึ่งออกเสียงคล้ายกับ “ถอนหายใจ” ในภาษาจีนกลาง คำว่า “รองเท้า” พ้องเสียงกับ “โชคร้าย” และ “ติดขัด”
คนจีนเชื่อว่าการซื้อรองเท้าใหม่ในวันตรุษจีน เป็นการนำพาความโชคร้าย เหนื่อยใจ ถอนหายใจ การซื้อรองเท้าใหม่ จะยิ่งส่งเสริมให้ “เดินออก” จากโชคลาภ เป็นสัญลักษณ์ของการเดินทาง จะสื่อถึงการพลัดพราก แยกจากครอบครัว คนที่รักได้อีกด้วย
แทนที่จะซื้อรองเท้าใหม่ คนจีนนิยม ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ของประดับตกแต่งบ้าน หรือ ของมงคล เพื่อเสริมสิริมงคลในวันตรุษจีนแทน
12. ห้ามกินเนื้อสัตว์ในมื้อเช้า
คนจีนเชื่อว่าวันตรุษจีนเป็นวันที่เทเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยลงมาบนโลก ซึ่งพระองค์กินมังสวิรัติ หากคนกินเนื้อในวันนั้น ถือเป็นการแสดงความเคารพต่อเทพเจ้า ท่านอาจโกรธ และลงโทษนำโชคร้ายมาให้
ในอีกแง่หนึ่ง การละเนื้อสัตว์เป็นกุศโลบายที่ต้องการหวังให้ร่างกายได้ปรับสมดุล ระบบย่อยอาหารทำงานน้อยลง ร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้น ไม่เจ็บป่วยในวันปีใหม่
อีกอย่าง การละเนื้อสัตว์ ถือเป็นการทำทานต่อชีวิตสัตว์อีกด้วย
12. ห้ามพูดเลข 4
คำว่า “4” ในภาษาจีนกลาง (Sì) ออกเสียงคล้ายกับคำว่า “ตาย” (Sǐ) การพูดเลข 4 จึงเปรียบเหมือนพูดถึงความตายในวันมงคล ไม่เหมาะไม่ควร จะกลายเป็นลางร้ายในวันตรุษจีน
แทนที่จะพูดเลข 4 คนจีนนิยมใช้คำอื่นแทน ตัวอย่างเช่น แทนที่จะพูดว่า “4 คน” ให้พูดว่า “หลายคน” แทน
13. ห้ามมีเพศสัมพันธ์
วันตรุษจีนถือเป็นวันแห่งการเริ่มต้นใหม่ ต้องการให้พลังหยินหยางของชีวิตมีเต็มเปี่ยม การมีเพศสัมพันธ์เป็นการ “เสียพลัง” ควรเก็บพลังไว้สำหรับทำกิจการงานที่เป็นประโยชน์กว่านี้
ที่สำคัญวันตรุษจีน โอกาสเดียวที่ครอบครัวจะมาอยู่กันพร้อมหน้า ผู้คนจะให้ความสำคัญกับการไหว้บรรพบุรุษ พบปะสังสรรค์กับญาติผู้ใหญ่ การมีเซ็กซ์ มองว่าไม่หมาะสมกับบรรยากาศ เพราะเป็นกิจกรรมส่วนตัว
14. ห้ามใส่ชุดสีขาวดำ
เพราะสีขาวกับสีดำใช้แต่งในงานพิธีศพ จึงถือว่าเป็นสีไม่เหมาะกับงานมงคลอย่างงานปีใหม่ ควรใส่ชุดสีสันฉูดฉาด สดใสมากกว่า เพื่อสงเสริมให้พลังชีวิตสดใส เบิกบาน แช่มชื่น พร้อมรับเรื่องดีๆ เข้ามาตลอดปีมังกรไม้
สีที่ควรใส่ในวันตรุษจีน 2567 ได้แก่ สีแดง สีชมพู สีน้ำเงิน สีเขียว
15. ห้ามกินอาหารหรือผลไม้ชื่อไม่มงคล
นอกจากโจ๊กแล้ว อาหาร ผลไม้อื่น ๆ ที่ออกเสียงพ้องกับความหมายไม่ดีก็เลี่ยงรับประทานไปก่อน เช่น สละ, ระกำ, ต้มเล้ง, ลูกท้อ เป็นต้น
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง : 1