‘ครูบาไก่’ ร่ำไห้ แจงปมเลี้ยงเด็กหนุ่ม-โชว์ของลับ ยืนยันไม่ใช่ตน
ครูบาไก่ ร่ำไห้ ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงปมเลี้ยงเด็กหนุ่ม และ โชว์ของลับ ยืนยันไม่ใช่ตน ท้าถ้า เจน มีตัวตนก็เอาตัวคนออกมายืนยัน
พระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร หรือ ครูบาไก่ ประธานพักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม พร้อมนายธรรมชาติ สาระปัญญา ทนายความ เจ้าของโครงการกองบุญทนายความ เพื่อปกป้องและสืบทอดพระพุทธศาสนา และลูกศิษย์ใกล้ชิด ตั้งโต๊ะแถลงกับสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง หลังถูกกล่าวหาว่ามีสัมพันธ์กับชายหนุ่ม พร้อมทั้งโชว์ของลับให้เด็กคนดังกล่าว ดังที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
นายธรรมชาติ กล่าวว่า ว่า การแถลงข่าวและการชี้แจงครั้งนี้เกิดจากครูบาไก่ถูกกล่าวหาในเรื่องต่างๆ ที่สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงกับวัดและพระครูก็เสื่อมเสียด้วย ซึ่งหลังจากเข้ามาช่วยเหลือดูแลครูบาไก่ก็มีการพูดคุยกัน ทำให้ทราบว่ารอยสักครูบาไก่มีมาตั้งแต่บวชเณรจริงแต่สักไม่สวยและสักเล็กๆ จึงได้มาสักซ้ำ ยืนยันว่าภาพของลับไม่ใช่ภาพของครูบาไก่
ส่วนประเด็นที่ถูกกล่าวหาว่าเลี้ยงเด็กผู้ชายนั้น ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของครูบาหลายคนที่เข้ามาอยู่ในวัด ครูบาก็ดูแลลูกหลานทุกคน และเมื่อทุกคนเติบโต มีหน้าที่การงานทำเลี้ยงดูตัวเองได้ก็ออกไปอยู่ข้างนอก แต่ยังไปมาหาสู่ครูบาประจำ
“กรณีของชายหนุ่มชื่อเจนนั้น ครูบาไก่ยืนยันว่าไม่รู้จัก และไม่ทราบว่า ฝ่ายกล่าวหาเอาหลักฐานต่างๆมาจากที่ใด ถ้านายเจนมีตัวตนจริงก็เอาตัวคนออกมายืนยัน เพราะหลังจากทราบเรื่องราวทั้งหมด ครูบาไก่ได้มอบหมายให้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.มัญจาคีรี ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคน 4 คนที่กล่าวหาครูบาไก่ ในข้อหา ร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ร่วมกันใส่ความคณะสงฆ์ ร่วมกันแจ้งความเท็จ และข้อหา ร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ครูบาไก่ได้นำหลักฐานต่างๆ ตามที่ถูกกล่าวหา รวมถึงทองคำที่ถูกกล่าวหาว่าหายไป รวมถึงรายละเอียดการก่อสร้างพระวิหารและเรื่องรอยสัก เข้าพบคณะสงฆ์และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของจังหวัดขอนแก่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทุกข้อกล่าวหาที่ถูกคนกลุ่มนั้นกล่าวหา ครูบาไก่ปฏิเสธทั้งหมด”
ขณะที่ ครูบาไก่ ได้กล่าวว่า เมื่อเรื่องมันเกิดปัญหา เราก็หาทางแก้ เอาความจริงมาพูด สิ่งที่เกิดขึ้นเราไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเอง เพราะว่าที่ผ่านมาได้เทศน์ได้บอกได้เตือนกับลูกศิษย์อยู่ตลอดว่า ภัยสังคมทุกวันนี้มันอันตรายมันจะเกิดขึ้นเกี่ยวกับพระเกี่ยวกับครูบาอาจารย์ขณะที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นที่จับจ้องของสังคมและก็เกิดขึ้นจริงกับตัวของครูบา
ทั้งๆที่ไม่รับรู้และไม่รับทราบสิ่งที่เขาได้กระทำว่าเป็นจริงเป็นเท็จประการใด คือเราไม่รู้เรื่องอยู่ดีดีเราก็กลายเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ากลายเป็นผู้ที่กระทำตามที่เป็นข่าว เมื่อเกิดเหตุแล้ว เราจึงออกมาพูดเกี่ยวกับความจริง และทางคณะสงฆ์ได้ให้มาชี้แจง จึงเป็นโอกาสดีที่มีลูกศิษย์ลูกหาญาติโยมมาให้กำลังใจ
“เรื่องที่เกิดขึ้นที่มีการร้องเรียนไปยังทางจังหวัดในเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องเงินสร้างวิหารก็ชัดเจนเพราะมีหลักฐานทุกอย่าง เรื่องทองคำก็มีหลักฐานทุกอย่าง ส่วนเรื่องของคนชื่อเจน เราไม่รับรู้เพราะ เราไม่รู้เมื่อเราไม่รู้เราก็ตอบไม่ได้ว่าบุคคลชื่อเจนนั้นคือใครและภาพที่มีการเผยแพร่นั้นเป็นภาพใครเราก็ไม่รู้ ซึ่งเมื่อเราไม่รู้แล้วเราก็ต้องปฏิเสธ และการชี้แจงในครั้งนี้ก็พูดในเรื่องที่เรารับรู้เท่านั้น และเป็นสิ่งที่เราบริสุทธิ์คือเรื่องเงิน เรื่องทองคำ โดยเรื่องเงินและทองคำที่ถูกกล่าวหานั้น มีหลักฐานทั้งหมด โดยทองคำนั้นได้นำไปเก็บไว้เป็นอย่างดี เพราะเป็นสิ่งของมีค่า
และเป็นสิ่งของที่ไม่ควรนำออกมาเปิดเผยให้คนเห็น โดยเก็บเอาไว้ในที่ปลอดภัย และเรื่องเลี้ยงเด็กน้อย เด็กผู้ชาย คนที่มาวัดจะทราบดีว่ามันเป็นเหตุจำเป็นเพราะว่าพวกขี้เหร่ไม่มาวัด กลายเป็นว่ามีแต่พวกหน้าตาดีมาอยู่ข้างจึงเป็นเหตุให้วุ่นวายสังคมจึงจับจ้องว่าครูบานั้นเป็นหรือเปล่าใช่หรือเปล่าใช่เหมือนอย่างที่คนอื่นพูดหรือไม่ แต่ทั้งนี้ลูกศิษย์ลูกหาที่เข้ามานั้นก็เป็นชาวบ้านในพื้นที่การให้เงินก็อาจจะมีให้บ้างเล็กๆน้อยๆ ไปกินข้าว เป็นการช่วยเหลือปกติอยู่แล้ว”
ทั้งนี้ในช่วงตอนท้ายของการแถลงข่าว ครูบาไก่ หลั่งน้ำตา ทำเอาลูกศิษย์และญาติโยมร้องไห้ตาม โดยลูกศิษย์และญาติโยมให้คำมั่นสัญญาว่าจะช่วยกันปกป้องครูบาไก่และพระพุทธศาสนาจากมารผจญ