‘ทนายตั้ม’ มั่นใจคดีไม่พลิก หลังมีหมายจับ โกงสินสอดอดีตรองนายก
ทนายตั้ม ให้สัมภาษณ์มั่นใจว่าคดีไม่พลิก หลังมีหมายจับ โกงสินสอดอดีตรองนายก ท้าขอหลักฐานพิธีสู่ขอ แต่เชื่อว่าไม่มี
ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจากที่ พนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ขอศาลอาญาตลิ่งชันออกหมายจับ สามี หญิงสาว และครอบครัวของหญิงสาว ข้อหาโกงสินสอด อดีตรองนายกรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ โดยระบุว่า อดีตรองนายก ย. คบหญิงคนนี้แบบเปิดเผยและและแนะนำกับคนอื่นว่า ได้ไปสู่ขอหญิงสาวคนนี้กับพ่อแม่แล้ว
ในกรณีดังกล่าว ทนายตั้ม เผยว่า ชายที่เป็นลูกความตนเอง รวมถึงภรรยากับแม่ได้ไปให้การกับตำรวจแล้ว แต่คนพ่อไม่ได้ไปให้การเพราะมีหมายจับคดีเช็คติดตัวอยู่ อดีตรองนายกฯ ก็ทราบ หากไปพบตำรวจก็โดนจับได้ทันที ซึ่งการแจ้งความดังกล่าวนั้นเป็นความต้องการที่อดีตรองนายกฯ อยากให้ภาพปรากฏบนสื่อตามนี้
ภายหลังคดีสั่งฟ้องในวัน 13 ม.ค.นี้ ตนจะทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้กับสามีที่เป็นลูกความ โดยให้อดีตรองนายกรัฐมนตรี มาให้การด้วยว่า เคยรู้จัก หรือพบกับลูกความตนหรือไม่ ส่วนกรณีที่อ้างว่าถูกหลอกเอาทรัพย์สินไป 7 รายการนั้น ขณะเกิดเหตุมีใครอยู่บ้าง พ่อแม่และลูกความตนเกี่ยวข้องอย่างไร เรื่องข้ออ้างการสู่ขอฝ่ายหญิงนั้น อดีตรองนายกฯ ไปกับใคร มีสักขีพยานและหลักฐานขณะทำพิธีหรือไม่ ท้ายสุดคือ ทรัพย์สินมูลค่ากว่า 20 ล้านบาทนั้น นำไปให้ฝ่ายหญิงเมื่อใด ลูกความตนอยู่ด้วยหรือไม่
กรณีทำพิธีสู่ขอต้องมีภาพหลักฐาน แต่ส่วนตัวเชื่อว่าไม่มี เป็นการสร้างเรื่องเพื่อหาเหตุเอาเงินคืน ตำรวจจึงต้องไปสืบหาเส้นทางการเงิน 20 ล้านบาทที่อ้างว่าให้ฝ่ายหญิงไปด้วย และตนตั้งข้อสังเกตว่า หากอดีตรองนายกฯ รู้ว่าตัวเองโดนหลอก เหตุใดถึงไม่มาให้ข่าวแต่แรก กลับรอให้มีภาพหลุดมาก่อน นอกจากนี้ทนายตั้มยังอ้างด้วยว่า รูปที่ถ่ายกันนั้นยังมีมากกว่าที่หลุดออกมาอีก ซึ่งมีภาพเปลือยของตัวเองที่ถ่ายส่งให้ฝ่ายหญิงด้วย
นอกจากนี้หลังการแถลงข่าวครั้งแรกยังมีผู้ประสานมาหาตนว่าต้องการให้จบเรื่องนี้ด้วย ตนยังเชื่อมั่นในลูกความตัวเองเพราะมีหลักฐานชัดเจนทั้งหมด จากนี้ตนเตรียมดำเนินคดีกลับรองนายกฯ ฐานแจ้งความเท็จ รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง พร้อมจะให้การช่วยเหลือลูกความตนในคดีฉ้อโกงที่ถูกแจ้งความ
ทนายตั้ม ให้ความมั่นใจว่า เรื่องนี้ไม่ใช่กระบวนการตบทรัพย์ เพราะมีการฟ้องร้องตั้งแต่แรก หากเป็นการตบทรัพย์ ต้องมีการต่อรองเพื่อไม่ให้เป็นข่าว ซึ่งฝั่งตนฟ้องร้องอย่างเงียบๆ มาตลอด
กระทั่งเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยจึงต้องออกมาเป็นข่าว เนื่องจากฝ่ายสามีซึ่งเป็นนักธุรกิจ ถูกคุกคามจนต้องย้ายที่อยู่ไปเรื่อย ซึ่งสามี ลูกความตนไม่มีลูกกับภรรยา คู่กรณี ตอนนี้ได้แยกกันอยู่ ส่วนขั้นตอนการฟ้องหย่ากำลังดำเนินการ