สรุปคำใบ้ “อดีตรองนายก” ทนายตั้ม ใบ้เพิ่ม ยัน ปัจจุบันพ้นพรรคเพื่อไทยแล้ว
คืบหน้ากรณ๊ดราม่าร้อนแวดวงนักการเมือง ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขามูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ได้ออกมาแฉผ่านเฟซบุ๊กว่า มีลูกความมาร้องขอความช่วยเหลือทางคดี ภรรยาตนเองเป็นชู้กับอดีตรองนายกรัฐมนตรีรายหนึ่ง เรื่องอยู่ระหว่างดำเนินการฟ้องหย่าตั้งแต่ปี 2565 แต่ถูกคุกคาม จึงอยากให้เรื่องออกสูสาธารณะ เพื่อความปลอดภัย
ต่อมามีรายงานว่า ได้มีคำใบ้ว่า อดีตรองนายกที่เป็นชู้ มีอักษรย่อ ย ยักษ์ ชาวเน็ตจึงไปสืบหากันยกใหญ่ว่า ที่ผ่านมามีรองนายกรัฐมนตรีคนไหนบ้าง ขณะที่บุคคลบางส่วนที่ถูกพาดพิงอย่างนาย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรีสมัยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่ใช่ตน
ล่าสุด เช้าวันนี้ 9 มกราคม 2566 ทนายตั้มได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงประเด็นนี้เพิ่มเติม ถึงสาเหตุที่ต้องโพสต์ลงโซเชียลว่า นาย ก. หรือสามีที่ถูกภรรยาคบชู้ถูกชายฉกรรจ์ไปล้อมคุกคามที่คอนโด และได้ไปร้องที่รอง ผบ.ตร. แล้ว ด้วยความกลัว จึงได้มาปรึกษาตน เพื่อต้องการให้เรื่องถึงสื่อมวลชน เพราะหากเป็นอะไรกับตนขึ้นมา จะได้มีคนทราบ เป็นอุทาหรณ์กับสังคม เพราะคู่กรณีเป็นถึงอดีตรองนายกรัฐมนตรี ควรมีจริยธรรม
เปิดคำใบ้เพิ่มอดีตรองนายกรัฐมนตรีเล่นชู้
เรื่องนี้ ทนายตั้มได้หยอดคำใบ้เพิ่มว่า รองนายกคนนี้อายุมากแล้ว เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย ชอบตีกอล์ฟ แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์ และอายุมากแล้ว ไม่มียศตำรวจ “ย” ไม่จำเพาะ แปลได้หลายทาง
ทนายตั้มไม่สามารถบอกชื่อตรงๆ ได้ เพราะจะเป็นช่องให้อีกฝ่ายฟ้องร้อง ไม่ได้กลัว แต่เสียเวลา ส่วนจะเป็นพรรคการเมืองไหนก็ไม่ขอระบุ เพราะถ้าระบุไปว่าเป็นรองนายกพรรคไหน สมัยใด ก็จะเหลือไม่กี่คน และอาจถูกฟ้องหมิ่นประมาทได้
ส่วนจะเป็นใครนั้น ทนายตั้มบอกว่า ไม่สามารถบอกชื่อตรงๆได้ เพื่อป้องกันการถูกฟ้อง แต่ไม่ได้กลัวที่จะต้องถูกฟ้อง แต่คิดว่าเสียเวลา และไม่ขอเอ่ยถึงพรรคหรือเป็นอดีตรองนายกฯ สมัยไหนยังไง เพราะถ้าระบุไปก็เหลือรองนายกไม่กี่คนก็ระบุตัวตนได้ก็ถูกฟ้องหมิ่นอีก
ส่วนประเด็นข่าวที่ว่ารองนายกคนนี้อยู่พรรคเพื่อไทยนั้น ทนายตั้มชี้แจงว่า เคยเป็นสมาชิกเพื่อไทยตอนปี 2551 แล้วพ้นจากสมาชิกไปตอนปี 2561 ก่อเหตุเป็นชู้ตอนปี 2565 ปัจจุบันไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยแล้ว