ข่าวข่าวภูมิภาค

เจ้าของปาเจโร่ เล่าวินาที เบนทลีย์ชนบนทางด่วน เผยรอดมาได้เพราะสิ่งนี้

เจ้าของปาเจโร่ เล่าวินาที เบนทลีย์ชนบนทางด่วน จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย ลั่นไม่กลัวคู่กรณี เผยรอดมาได้เพราะสิ่งนี้

จากกรณีที่ รถเบนทลีย์ชนรถปาเจโร่บนทางด่วน ส่งผลให้รถปาเจโร่พลิกคว่ำ และทำให้ผู้โดยสาร 6 คน ได้รับบาดเจ็บทั้งคัน และ เกิดอุบัติเหตุซ้อนกับรถกระบะของเจ้าหน้าที่ อปพร. จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มอีก 2 ราย ล่าสุดทางเจ้าของรถปาเจโร่ได้ออกมาเล่าถึงวินาทีระทึกดังกล่าว

เจ้าของรถเล่าว่า ตนว่า ออกจากบ้านพักย่านทุ่งครุ ขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าลงดินแดง เพื่อจะกลับบ้านที่จังหวัดบึงกาฬ ขณะอยู่บนทางด่วนได้ขับในเลนกลางมาตามปกติ ใช้ความเร็วประมาณ 90 กม./ชม. จากนั้นจำอะไรไม่ได้ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก โดยเล่าว่าบนรถมีเด็ก 4 ขวบนั่งอยู่ด้วย 1 คน

ด้านแฟนสาวของเจ้าของรถปาเจโร่เล่าว่า สาเหตุที่รอดมาได้ เป็นเพราะทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัย โดยแฟนเป็นคนขับรถ มีพ่อนั่งด้านข้างคนขับได้รับบาดเจ็บแขนหัก ถัดมาเป็นแม่ หลานชาย ตนนั่งอยู่แถวที่สอง ส่วนน้องสาวนั่งอยู่ด้านหลัง และมีสัมภาระอีกไม่เยอะจำพวกที่นอน ส่วนของที่เหลือได้จัดไว้ด้านบนเพราะจะเดินทางไกลไปต่างจังหวัด

โชคดีที่มีรถกู้ภัยมาชนอีกต่อหนึ่งไม่งั้นรถอาจจะตกสะพานไปแล้ว ตอนเกิดเหตุตนจับมือหลานเอาไว้ เมื่อทุกอย่างนิ่ง เช็คเรียกทุกคนว่ายังอยู่ไหม โชคดีที่หลานหลับเขาจึงไม่ร้อง เมื่อตั้งสติได้ก็พากันปีนคลานออกมาด้านหลังตรงประตูเพราะกระจกแตกไปแล้ว พอเห็นคลิปรถเบนทลีย์ชนบนทางด่วนแล้วรู้สึกโชคดี แต้มบุญสูง เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ รอดมาได้อย่างไร

ขณะที่ทางเจ้าของรถปาเจโร่ยังได้เคลื่อนไหวทางเฟซบุ๊ก ระบุด้วยว่า “อย่างน้อยก่อนตาย ก็ได้สานฝันออกทีวี ขอบคุณพี่ๆสื่อมวลชนทุกท่าน ที่เป็นกระบอกเสียง ให้เสียงเล็กๆได้บอกเล่าความจริง

พี่นักข่าวถามว่า… ” รู้ไหม ว่าคู่กรณีเป็นใคร?” “รู้ค่ะ” “ไม่กลัวหรอ?” “กลัวทำไมคะ เมื่อคืนก็เท่ากับหนูได้ตายไปแล้ว
ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นกับหนูอีก มันก็ค่าเท่ากัน ขอตายแบบมีศักดิ์ศรีหน่อยจะดีกว่า”

banner12

 

 

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button