ข่าวภูมิภาค
ผู้ประกอบการสถานบันเทิงป่าตองยื่นหนังสือขอขยายเวลาเปิดถึงตี 4 มั่นใจแก้ปัญหาเก็บส่วยได้ เผยสถานบันเทิงป่าตองทำรายได้คืนละกว่า 25 ล้านบาท
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ ( 27 พ.ย.) นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบั นเทิงป่าตอง พร้อมรองประธาน เดินทางเข้ายื่นหนังสือกับ นายสมปราชญ์ ปราบสงคราม นายอำเภอกะทู้ จ.ภูเก็ต เพื่อส่งต่อไปยังผู้ว่าราชการจั งหวัดภูเก็ต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่ งชาติ เพื่อเรียกร้องให้พิจารณาผ่อนผั นขยายเวลาเปิด- ปิดสถานบันเทิงในพื้นที่ป่าตอง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว และคนใช้บริการสถานบันเทิงในพื้ นที่ป่าตองส่วนใหญ่เป็นชาวต่ างชาติ
พร้อมตั้งเดินทางมาติดตามความคื บหน้าการขอขยายเขตโซนนิ่งสถานบั นเทิงในพื้นที่ป่าตอง ที่ต้องกลับมาทำประชาพิจารณ์รั บฟังความคิดเห็นของคนในพื้นที่ หลังมีการแจ้งว่ าการเสนอเขตโซนนิ่งที่ผ่านมามี การร้องเรียน ทำให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้ องยังไม่สามารถพิจารณาเรื่ องของการขยายเขตโซนนิ่งสถานบั นเทิงทั่วประเทศได้
นายวีรวิชญ์ กล่าวว่า ปัจจุบันป่าตองเป็นแหล่งท่องเที่ ยวที่มีบริบทความเป็นเมืองท่ องเที่ยวที่แตกต่างจากแหล่งท่ องเที่ยวอื่นๆ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้ องพิจาณาแก้ไขเรื่องเวลาเปิดปิ ดสถานบันเทิงให้เหมาะสมสำหรั บการเป็นเมืองท่องเที่ยว และเกิดประโยชน์ในภาพรวม และเกิดประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่ ทำรายได้เข้าประเทศเพิ่มมากขึ้น รวมทั้ง เป็นการแก้ปัญหาค่านิยมผิ ดๆในเรื่องของการเรียกรั บผลประโยชน์ที่กำลังเป็นปั ญหาอยู่ในขณะนี้
“คิดว่าถึงเวลาที่ควรจะแก้ไขปั ญหาเรื่องนี้ ให้เห็นเป็นรูปธรรม เพราะจะส่งผลดีโดยรวม ซึ่งการขยายเวลาเปิดปิดสถานบั นเทิงจากเวลา 01.00 น. ไปจนถึง 04.00 น. ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปั ญหาการเรียกเก็บส่วยได้ไม่น้ อยกว่า 70 % ส่วนที่เหลืออีก 30 % ก็จะเป็นเรื่องของการทำผิดอย่ างอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น เรื่องแรงงานต่างด้าว เป็นต้น แต่ถ้าในส่วนของการเปิดปิ ดสถานบันเทิงเมื่อมี การขยายเวลาปัญหาการจ่ายส่วย เรียกรับส่วยก็จะหมดไป” นายวีรวิชญ์ กล่าวและว่า
จึงอยากเรียกร้องให้ทางหน่ วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเรื่ องนี้ด้วย ถ้าทำได้ก็จะทำให้การแก้ไขปั ญหาทำได้ตรงจุด ที่ผ่านมาตนพูดไปแล้วหลายครั้ งว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องส่วยสถานบั นเทิง การย้ายตำรวจออกจากพื้นที่ไม่ ใช่วิธีการแก้ปัญหา เพราะเชื่อว่าอีกไม่นานก็จะกลั บมาเรียกเก็บเหมือนเดิม แม้ว่าช่วงนี้การเรียกเก็บส่ วยจะเงียบลงก็ตาม แต่ถ้าเมื่อไหร่เรื่องการร้ องเรียนเงียบไป การจ่ายส่วย เก็บส่วยก็กลับมา เพราะฉะนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ มีการแก้ไขกฎหมายเรื่ องของการเปิดปิดสถานบันเทิง โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าตองขอให้ เปิดได้ถึงเวลา 04.300 น. ซึ่งจะเป็นการสนองต่อความต้ องการของนักท่องเที่ยวด้วย
ส่วนเรื่องของโซนนิ่งสถานบันเทิ ง นายวีรวิชญ์ กล่าวว่า ได้มีการปรับปรุงและขยายโซนนิ่ งสถานบันเทิงทั้งจังหวัด โดยในส่วนของพื้นที่ป่าตองได้มี การขอขยายโซนนิ่งสถานบันเทิง จากเดิมที่มีเฉพาะที่ซอยบางลา ขยายเพิ่มเติมในพื้นที่โซนที่ 7 ของป่าตอง คือ ได้มีการกำหนดโซนนิ่งสำหรั บสถานบันเทิงเพิ่มเติ มจากซอยบางลา ที่ซอยแสนสบายไปถึงแยกบ้านซ่าน ระยะทางประมาณ 160 เมตร ซอยตัน และซอยโอท็อป ซึ่งในซอยทั้งหมดที่ขอขยายโซนนิ่ งสถานบันเทิงนั้น เป็นพื้นที่ที่มีสถานบันเทิงเปิ ดให้บริการอยู่แล้วทั้งหมด
ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบั นเทิงหาดป่าตอง ระบุ ถึงธุรกิจสถานบันเทิงในป่าตองว่ า มีไม่ต่ำกว่า 400 แห่ง ทั้งที่อยู่ในโซนนิ่ งและนอกโซนนิ่ง แต่ที่จดทะเบียนเป็นสถานบันเทิ งกับทางอำเภอกะทู้มีประมาณ 190 กว่าแห่ง ซึ่งแต่ละวันสามารถสร้างรายได้ ไม่ต่ำกว่า 25 ล้านบาท และในขณะนี้ซึ่งเป็นช่วงไฮซีชั่ นนักท่องเที่ยวเข้ามาป่าตองเป็ นจำนวนมาก เป็นเวลาที่สถานบันเทิงทำรายได้ หากให้ปิดในเวลาที่ กฎหมายกำหนดคือตีหนึ่งจะสร้ างความเสียหายทางธุรกิจอย่ างมหาศาล
ด้านนายสมปราชญ์ ปราบสงคราม นายอำเภอกะทู้ กล่าวว่า หลังจากรับหนังสือแล้ว ทางอำเภอจะส่งต่อหนังสือไปยังจั งหวัดเพื่อส่งต่อไปยังรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกรัฐมนตรี รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ งหมด ซึ่งทางผู้ใหญ่ได้เล็งเห็นถึ งความสำคัญของเมืองป่าตอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่ อเสียงระดั บโลกและสามารถทำรายได้จากการท่ องเที่ยวได้อย่างมหาศาลในแต่ ละปี
ในส่วนของการขยายโซนนิ่งสถานบั นเทิง เป็นนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่ ให้ดำเนินการพร้อมกันทั้งประเทศ ขณะนี้ได้ดำเนินการไปหมดแล้ว เหลือแค่ 9 จังหวัดที่ยังไม่ สามารถกำหนดโซนนิ่งสถานบันเทิ งใหม่ได้ รวมถึงภูเก็ต ในพื้นที่ป่าตอง เนื่องจากมีประชาชนชาวป่าตองได้ ทำหนังสือร้องเรียนไปยั งเทศบาลเมืองป่าตองคัดค้ านการกำหนดพื้นที่โซนนิ่งใหม่บ้ างส่วนโดยอ้างว่าการับฟังความคิ ดเห็นผู้ส่วนได้ส่วนเสียไม่ได้ ร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างทั่วถึ ง ทางเทศบาลเมืองป่าตอง จึงได้เรียนไปยังผู้ว่าฯ ทางผู้ว่าฯจึงได้ขอชะลอไปยั งกระทรวงมหาดไทย 45 วัน พร้อมทั้งได้สั่งให้มีการรับฟั งความคิดเห็นใหม่อีกครั้ง ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อวั นที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา และได้กำหนดโซนนิ่งใหม่เรียบร้ อยแล้ว ซึ่งทางจังหวัดจะได้นำเสนอไปยั งกระทรวงมหาดไทยต่อไป