เปิดชีวิต ชลัช อ้อยทอง ลูกเรือสุโขทัยสุดรันทด บ้านทั้งหลังมีเพียงวิทยุทรานซิสเตอร์
เปิดชีวิต พลทหาร ชลัช อ้อยทอง กำลังพลเรือหลวงสุโขทัยอับปาง สุดรันทดบ้านทั้งหลังมีเพียงวิทยุทรานซิสเตอร์กับหม้อหุงข้าว ยายพูดสั้นๆ หลังเกิดอุบัติเหตุสลด ถึงเวลาเขาก็พาไป
กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกส่งต่อและพูดถึงเป็นจำนวนมากบนโลกโซเชียล ภายหลังข่าวการเปิดเผยเรื่องราวชีวิตของ พลทหาร ชลัช อ้อยทอง ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือรบหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเลในพื้นที่อำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โโยหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวก่อนหน้านี้ ระบุ เจ้าตัวกำพร้าไม่มีพ่อ แม่พิการสมองแต่กำเนิด เรียนจบแค่ ป.2 รับจ้างทำงานเลี้ยงดูยายวัย 78 ปี ก่อนจับฉลากเป็นทหารเรือ สุดรันทดบ้านทั้งหลังมีเพียงวิทยุทรานซิสเตอร์ กับหม้อหุงข้าว
ล่าสุด เมื่อลองไปดูประวัติก็พบว่า พลทหาร ชลัช มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.ชุมพร กำพร้าไม่มีพ่อ มีแม่พิการทางสมองตั้งแต่เกิด ปัจจุบันอยู่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง เรียนจบเพียงชั้น ป.2 แค่อ่านออกเขียนได้ ดิ้นรนทำงานเลี้ยงดูยายวัย 78 ปี ถึงเวลารับใช้ชาติจับฉลากได้เป็นทหารเกณฑ์พลัด 3 ถูกส่งตัวไปฝึกที่กองทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา จนกระทั่งมาประสบชะตากรรมดังกล่าว
ต่อมา ผู้สื่อข่าวมีการเดินทางไปยังบ้านเกิดของพลทหารเคราะห์ร้ายรายดังกล่าว ที่บ้านเลขที่ 102/2 หมู่ 5 บ้านท่าไม้ลาย ตำบลวังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งอยู่เขตรอยต่อกับจังหวัดระนอง บ้านถนนซอย 3 บ้านท่าไม้ลาย ห่างจากถนนเพชรเกษม ประมณ 3 กิโลเมตร โดยบ้านหลังดังกล่าวอยู่สุดเขตรอยต่อช่วงถนนคอนกรีตและถนนลูกรังพอดี บ้านอยู่ห่างจากถนนซอยเพียง 20 เมตร เป็นบ้านปูนชั้นเดียวก่อด้วยอิฐบล็อกด้านในไม่ได้ฉาบผิว หลังคามุงกระเบื้องสภาพเก่าทรุดโทรม
นางอำพร ชมพู่ทอง อายุ 56 ปี เปิดเผยว่าตนเองมีศักดิ์เป็นหลายสะใภ้ ส่วนนางปัจจะ มาลาวงษ์ อายุ 73 ปี เป็นเครือญาติลูกพี่ลูกน้องกับนางฉ่ำ พรหมบังเกิด อายุ 78 ปี ยายของ พลทหาร ชลัช อ้อยทอง ซึ่งได้อาศัยอยู่ร่มกันที่บ้านหลังนี้มานานแล้วเพื่อดูแลย่าฉ่ำด้วย
สภาพบ้านมี 2 ห้อง นอน 1 ห้องน้ำ และมีห้องโถงโล่งจากหน้าบ้านยาวไปถึงครัวหลังบ้านและมีห้องน้ำอยู่ใกล้กัน มีสิ่งของเครื่องใช้เสื้อผ้าเก่าๆ ตั้งวางอยู่ทั่ว มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้ามีเพียงหม้อหุงข้าวที่ใช้มานานหลายปี และมีโทรทัศน์เก่าๆเสียชำรุดใช้การไม่ได้มานานกว่า 10 ปี ตั้งอยู่บนโต๊ะ นอกจากนั้นแทบไม่มีอะไรเลย นอกจากวิทยุทรานซิสเตอร์สีดำ ยีห้อธานินทร์ 1 เครื่อง ที่คนในครอบครัวใช้เปิดฟังเพลงและข่าวสารบ้านเมืองเท่านั้น
นอกจากนั้นรูปภาพของ พลทหารชลัช ก็ไม่มีอยู่ในบ้านหลังนี้เลยแม้แต่รูปเดียว มีแต่รูปภาพของเครือญาติคนอื่น ๆ ที่ใส่กรอบติดตั้งไว้ตามผนังบ้าน
นางอำพรกล่าวว่าชีวิตของ พลทหารชลัช อ้อยทอง นั้นน่าสงสารมาก ไม่มีพ่อมาตั้งแต่เกิด ส่วนแม่ก็พิการสมองมาตั้งแต่เกิด จึงไม่ทราบว่าใครเป็นพ่อเพราะถูกล่อลวงไปกระทำชำเรา ซึ่งแม่ของพลทหารชลัชนั้น ถูกส่งตัวไปอยู่ที่ สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ หรือ “บ้านประจวบโชค” นานเกือบ 20 ปีแล้ว และไม่เคยเจอหน้ากันอีกเลย
โดย พลทหารชลัช เรียนจบเพียงชั้น ป.2 เพราะฐานนะยากจน ต้องออกไปรับจ้างทำงานดูแลย่า รับจ้างทำงานหลายแห่ง ทั้งในจังหวัด ต่างจังหวัดและที่กรุงเทพมหานคร จนกระทั้งปี พ.ศ.2564 อายุ ครบเกณฑ์ทหาร จับฉลาดได้ใบแดงเป็นทหารเรือพลัด 3 และเพิ่งจะถูกส่งตัวไปฝึกทหารเรือที่อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าเสียชีวิตจากเรือรบอับปางดังกล่าว
ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า “ยายฉ่ำ” พูดอะไรบ้างเมื่อรู้ข่าวว่าหลานรักเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว นางอำพรกล่าวว่า ยายฉ่ำก็มีอาการเสียใจแต่ไม่แสดงออก เพียงแต่บอกสั้นๆ ว่า “ถึงเวลาเขาก็พาไป”
ที่มา : ไทยโพสต์
- บีบหัวใจ! พบศพ ชลัช อ้อยทอง ลูกเรือสุโขทัยล่ม พลัดพรากแม่ 15 ปี
- กองทัพเรือ เปิดภาพวันรับร่างผู้เสียชีวิตลูกเรือสุโขทัย
- เจอต้นเรือพลับแล้ว รอง ผบ.ตร. ระบุ ผลตรวจเอกลักษณ์