คืบหน้าโครงการเงินประกันรายได้ข้าว ปีที่ 4 งวดที่ 10 หลังวันที่ 18 ธันวาคม 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการจ่ายเงินประกันรายได้ข้าว ทั้งเงินส่วนต่างและวันที่ธนาคาร ธ.ก.ส. จะโอนเงินให้กับชาวนา
สำหรับราคาเกณฑ์กลางจะอ้างอิงจากโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/2566 โดยในงวดที่ 10 นี้ จะเป็นงวดของเกษตรกรผู้ที่เก็บเกี่ยวข้าวในช่วงวันที่ 10-16 ธันวาคม 2565 ซึ่งทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินให้ชาวนาภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 21 ธันวาคม 2565 เป็นจำนวนทั้งหมด 66,237 ครัวเรือน
ทั้งนี้ทางโครงการประกันรายได้ข้าวเพื่อช่วยเหลือเกษตรผู้ปลูกข้าว ก็ได้ระบุเกณฑ์ข้าวทั้งหมด 5 ชนิด พร้อมเงินชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง ประจำงวดที่ 10 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ประกันรายได้ข้าวงวดที่ 10 เงินส่วนต่าง ข้าวเปลือก 5 ชนิด
1. ข้าวเปลือกหอมมะลิ
– เกณฑ์กลางตันละ 13,924.10 บาท
– ได้รับเงินชดเชยตันละ 1,075.90 บาท สูงสุดครัวเรือนละ 15,062.60 บาท
2. ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่
– เกณฑ์กลางตันละ 13,401.24 บาท
– ได้รับเงินชดเชยตันละ 598.76 บาท ชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 9,580.16 บาท
3. ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี
– เกณฑ์กลางตันละ 10,711.69 บาท
– ได้รับเงินชดเชยตันละ 288.31 บาท ชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 7,207.75 บาท
4. ข้าวเปลือกเจ้า
– เกณฑ์กลางตันละ 9,503.11 บาท
– ได้รับเงินชดเชยตันละ 496.89 บาท ชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 14,906.70 บาท
5. ข้าวเปลือกเหนียว
– เกณฑ์กลางตันละ 12,226.11 บาท
– ไม่ต้องชดเชยเนื่องจากราคาเกณฑ์กลางสูงกว่าราคาเป้าหมายที่ตันละ 12,000 บาท
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับสิทธิเงินประกันรายได้ข้าวจะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2565/2566 กับกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมทั้งต้องแจ้งวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวให้เรียบร้อย โดยชาวนาที่ลงทะเบียนรับสิทธิเยียวยาเงินประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินจากธนาคาร ธ.ก.ส. ได้ตามนี้
1. เข้าไปที่เว็บไซต์ chongkho.inbaac.com
2. ระบุเลขประจำตัวประชาชน
3. จะปรากฎสิทธิตามโครงการรัฐที่ได้รับสนับสนุน
4. หลังตรวจสอบสิทธิในเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว ให้เช็กข้อมูลยอดเงินที่แอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile อีกครั้ง