หนุ่ม 28 ปี สมองตาย ทำบุญกุศลครั้งสุดท้าย บริจาคอวัยวะ
หนุ่มวัย 28 ปี สมองตายจากการประสบอุบัติเหตุ ทำบุญกุศลครั้งสุดท้าย บริจาคอวัยวะ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อีก 6 ชีวิต
นายแพทย์ อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กแบ่งปันเรื่องราวของหนุ่มวัย 28 ปี ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนสมองตาย และได้บริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อีก 6 คน
นพ.อารักษ์ เล่าว่า “หนึ่งชีวิตต่อลมหายใจ สร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ มอบอวัยวะ ให้กับอีก 6 ชีวิต ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น บริจาคอวัยวะประกอบด้วย หัวใจ, ตับ ,ไต 2 ข้าง ตับอ่อน และดวงตา 2 ข้าง
เป็นกรณีตัวอย่าง ผู้ป่วยชายอายุ 28 ปี ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ได้รับบาดเจ็บทางสมอง อย่างรุนแรง ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ทีมศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง ได้พยายามดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ รักษาโดยการผ่าตัดสมอง ดูแลในหอผู้ป่วยวิกฤติ แต่ไม่อาจรักษาให้สมองกลับฟื้นคืนมาได้ อยู่ในภาวะสมองตาย แต่สมรรถภาพของหัวใจ และอวัยวะอื่นๆ ดีมาก
ทีมพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วย ได้ปรึกษาหารือ กับบิดา มารดา และญาติผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ถึงแนวทางการรักษา และโอกาสที่สมองจะกลับฟื้นคืนมามีน้อยมาก จึงได้ขอรับบริจาคอวัยวะให้กับศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย เพื่อนำไปให้ผู้ป่วย ที่รอคอยการปลูกถ่ายอวัยวะ อยู่เป็นจำนวนมาก
เมื่อญาติที่อยู่กันอย่างพร้อมเพรียง ได้ตัดสินใจบริจาค ทางโรงพยาบาล ได้ประสานไปยังสภากาชาดไทย เพื่อเตรียมทีมแพทย์ พยาบาล เครื่องมืออุปกรณ์มาเก็บอวัยวะ รวมถึงการเตรียมผู้ที่รอคอยการปลูกถ่าย โดยเฉพาะหัวใจ ที่ถือเป็นอวัยวะสำคัญ มีเวลาในการขนย้ายเพียง 4 ชั่วโมง การวางแผนในทุกขั้นตอนจึงสำคัญมาก
เนื่องจากโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ไปยังกรุงเทพมหานคร หากเดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง ถ้าการจราจรติดขัด อาจมากกว่า 5 ชั่วโมง และไม่มีสายการบินพาณิชย์ ให้เดินทางได้ มีเพียงสนามบินกองทัพอากาศ กองบิน 5 อ่าวมะนาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีเพียงเครื่องบินเล็กเท่านั้นที่สามารถบินขึ้นลงได้
การขนย้ายหัวใจ จึงต้องเดินทางทางอากาศยาน เท่านั้นถึงจะทันการผ่าตัดปลูกถ่ายได้
ทีมแพทย์ พยาบาล 11 คน จากโรงพยาบาลศิริราช ออกเดินทางโดยรถยนต์ ตั้งแต่เวลา 4.00 น. ถึงโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เวลา 8.00 น. เริ่มเตรียมผู้ป่วยทันที ทั้งฝั่งผู้ให้และผู้รับ ใช้เวลาเก็บหัวใจไม่นาน แพทย์ 2 ท่าน รีบเก็บรักษาหัวใจในภาชนะที่มีการควบคุมอุณหภูมิ แล้วออกเดินทางไปยังสนามบินกองบิน 5 ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก เพียง 5 นาที ได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างดียิ่ง จากนายทหารกองบิน5 มีเครื่องบินเล็กอาสาได้บินมาจอดรอไว้แล้ว เมื่ออวัยวะมาถึง นักบินเตรียมความพร้อม แพทย์สองท่านพร้อมหัวใจ ประจำที่ เครื่องบินทะยานขึ้นฟ้า จนอวัยวะถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ถือเป็นครั้งแรกที่สนามบินกองบิน 5 ได้มีส่วนช่วยขนอวัยวะในครั้งนี้
สำหรับอวัยวะส่วนอื่นๆ ยังสามารถรอเวลาได้ ทีมแพทย์ที่เหลือ พร้อมอวัยวะจึงได้เดินทางกลับไปยังกรุงเทพมหานครทางรถยนต์ เพื่อมอบให้สภากาชาดไทย ปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยที่รอคอยต่อไป
ขออนุโมทนาบุญ และขอเชิดชูเกียรติ แด่ผู้บริจาคและครอบครัวที่ได้ร่วมสร้างบุญครั้งใหญ่ในชีวิต ความดีที่ไม่สิ้นสุด คือการบริจาคร่างกายและอวัยวะเมื่อยามสิ้นสูญ