ย้อนกลับไปในวันนี้เมื่ออดีต 24 ปีที่แล้ว 11 ธันวาคม 2541 ประเทศไทยเกิดเหตุโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ครึ่งหนึ่งทางเครื่องบิน การบินไทย เที่ยวบินที่ 261 ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกกระแทกระหว่างลงจอด ณ ทางใต้ของท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 101 คน มีผู้รอดชีวิตปาฏิหาริย์ 45 คน หนึ่งในนั้นคือ เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์
เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น เจมส์ได้โพสต์ข้อความยาวผ่านเฟซบุ๊กเล่าย้อนกลับไปในวันนั้น วันที่ทำให้เขาตอนนี้มีโอกาสใช้ชีวิตที่ 2 ความว่า
“ฉันใช้ชีวิตที่สองมา 24 ปีเเล้วเหรอเนี่ย ! คืนวันศุกร์ 11 ธค 2541 (1998) …วันนี้เมื่อ 24ปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์อันนำมาสู่ความสูญเสียอย่างมหาศาลอีกครั้งของคนไทย เที่ยวบินที่นำพาผม พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือจำนวน 145 ท่านจากดอนเมือง ไปปลายทางที่สุราษฏร์ธานี…แต่หลายท่านไม่ได้มีชีวิตกลับบ้าน
24 ปีที่ผ่านมา ผมใช้เวลากว่า 10 ปี ในการทนทุกข์ทรมานทุกครั้งเวลาขึ้นเครื่องบิน ทั้งพึ่งยาจากเเพทย์ ทั้งพึ่งทางธรรมมะ หรือทางความเชื่อทุกเเบบที่จะทำให้ตนเองดีขึ้น …ถึงแม้ว่าตัวผมเองจะเชื่อมั่นในสถิติความปลอดภัยของเครื่องบิน และผมเองไม่เคยลดความเชื่อมั่นในการบินไทยที่เป็นสายการบินที่ปลอดภัยและดีที่สุดในใจผมเสมอ (ทุกวันนี้ผมบินต่างประเทศ ผมเลือกเเต่การบินไทย ผมจ่ายเงินเองนะไม่ได้บินฟรีอย่างที่ลือกัน)
แต่ 10 ปีแรก ผมอยู่ด้วยความทรมานทุกครั้งที่มีเหตุต้องขึ้นเครื่องบิน …เหงื่อจะออกเต็ม 2 ฝ่ามือ หัวใจจะเต้นไม่เป็นปกติ การหายใจก็ไม่สะดวกสบาย ทั้งๆ ที่อากาศในเครื่องบินสะดวกสบาย เวลาขึ้นเครื่องบิน ใครที่เดินทางไปกับผมจะทราบดีว่า ตลอดเวลาบนเครื่องผมจะไม่คุยกับใครเลย หน้าต้องจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง ห้ามใครมาปิดหน้าต่าง และผมต้องนั่งติดหน้าต่างเสมอ จ้องมองตลอดทั้งชั่วโมงที่ต้องบิน ตาแทบไม่กระพริบ เพื่อให้ชัวร์ว่าข้างนอกปลอดภัยดี”
เจมส์ได้เล่าถึงช่วงเวลาที่ต้องทนอยู่บนเครื่องบินเมื่อรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยว่าทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่นรก
“และหากมองออกไปแล้วเห็นเมฆดำ หรือเกิดฟ้าฝนระหว่างที่เครื่องบินอยู่ นั่นคือนรกของผมเลยครับ ในขณะที่ทุกคนในลำนั่งกันอย่างปกติดี แต่ผมจะอยู่ไม่สุข มันจะรู้สึกเเย่มากๆครับ เกินจะบรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือ เพราะภาพเดิม เสียงเดิมๆ กลิ่นเดิมๆ หรือเเม้แต่รสชาติเดิมของน้ำในบึงที่เกิดเหตุคืนนั้น มันจะกลับมาหมด
มันเป็นความรู้สึกที่เเย่เกินสาธยาย หลายครั้งที่ผมอยากร้องไห้ออกมาดังๆ บนเครื่องบิน แต่ด้วยเป็นเจมส์ เรืองศักดิ์ ผู้ชายตัวสูงใหญ่เกือบ 2เมตร เเละเป็นที่รู้จักของทุกคนบนนั้น ผมอายครับ ก็ต้องอดทนกันไปครับ
10 ปีแรกกับความทรมาน 10 ปีที่สองผมอยู่กับอาการที่ดีขึ้น ดีวัน ดีคืน ด้วยความเข้าใจในชีวิตที่มากขึ้น และที่สำคัญได้ผมได้พบกับภรรยา (ครูก้อย) ที่เธออยู่เคียงข้างและให้กำลังใจผม คอยบีบมือผม ปลอบใจ โอบกอด เวลาที่มีอาการ จนถึงวันนี้ที่ผมคิดว่าผมหายเป็นคนเกือบปกติ
ผมคิดว่าน่าจะ 97-98% แล้วนะ อีก 2% มันจะมีอาการเมื่อเครื่องลดระดับอย่างรวดรวดเเละเป็นเวลานานเกิน 10วิ ซึ่งผมเคยเจอแค่ครั้งเดียว
ทุกวันนี้ชีวิตผมมีความสุขมากครับ ทุกอย่างมันเติมเต็มทุกบทบาทของชีวิต มันดีมากอย่างที่ไม่เคยดีขนาดนี้มาก่อน ทั้งข้างในคือความคิด และข้างนอกคือความสัมพันธ์ ครอบครัวและชีวิตความเป็นอยู่
ผมบอกภรรยาเสมอว่า ทุกวันนี้ไม่รู้จะเอาเวลาไหนไปมีความทุกข์เพราะความสุขที่มีอยู่ตรงหน้าทุกวันนี้มันยังใช้ไม่ทันเลยจริงๆ แต่ละวันอยากมีเวลาเพิ่มเพราะใช้ความสุขไม่ทันจริงๆหรืออาจเป็นเพราะผมเคยผ่านเรื่องราวแบบนี้มาด้วยมั้ง ผมถึงรู้ซึ้งถึงคุณค่าของเวลาและการมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขมากว่าปกติ
ขออุทิศส่วนกุศลและรำลึกถึง 101 ชีวิตที่กลับไปไม่ถึงบ้านในวันนั้น 11 ธค 2565 (2022) เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ James”
ในช่วงเหตุการณ์เครื่องบินตกนั้น เจมส์ เรืองศักดิ์ถือเป็นนักร้องดังมาก กำลังไต่กราฟขึ้นสู่จุดสูงสุดของอาชีพ เป็นช่วงปล่อยอัลบั้มที่ 3 JAMES FM มีเพลง ชับ ชับ ชับ ดังเป็นพลุแตก