ไม่ได้เห็นกันมาได้สักพักใหญ่ ๆ แล้วกับรูปคู่ของ ‘ตงตง กฤษกร กนกธร‘ กับแฟนสาว ‘เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์‘ ที่พักนี้ไม่คอยได้อวดรูปโมเมนต์หวาน ๆ ให้แฟนคลับได้ติดตามกันสักเท่าไหร่ จนถึงขั้นมีข่าวลือออกมาว่า ทางผู้ใหญ่ของพระเอกหนุ่มสั่งห้ามลงรูปหวานแฟนสาว แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการสอบถามไปยังยูทูบเบอร์สาวแต่ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ยังไงก็ต้องรอให้มาถามฝ่ายชายเอง
ล่าสุด (9 ธ.ค. 65) ทางหนุ่ม ตงตง กฤษกร ก็ได้มีการออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นผู้ใหญ่สั่งห้ามลงรูปหวาน ในงานเปิดตัวหนังยักษ์แห่งยุค ‘Avatar: The Way of Water อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ‘ เผย ไม่ขนาดห้ามแต่ช่วงนี้ทำงานหนัก ใช้ชีวิตรักเหมือนเดิมแต่อาจไม่ได้ลงให้เห็น โดยระบุว่า
พอไม่มีโมเมนต์หวานคนก็มองว่ารักเราสั่นคลอน ?
“ต้องบอกอย่างนี้นะ ผมจะบอกทุก ๆ ครั้งว่าแต่ก่อนช่วงโควิด-19 แรก ๆ เลย ไม่มีใครมีงาน แล้วเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ได้ไปถ่ายยูทูบ ได้ไปที่นั่นที่นี่ด้วยกัน มันก็เลยมีโมเมนต์ต่าง ๆ ออกมา แต่ด้วยตอนนี้เราได้กลับสู่โลกที่เราเคยผ่านมาแล้วก็เลยต้องกลับมาทำงานหนักมาก ยิ่งตอนนี้หลังจากจบละครคุณชาย ก็มีงานนอก และยังมีละครใหม่ของปีหน้าด้วย”
เบสท์บอกเรื่องไม่ลงรูปคู่ให้มาถามตงตงเองว่าทำไมถึงไม่ลง ซึ่งมันมีข่าวลือว่าต้นสังกัดของเราสั่งห้ามไม่ให้ลงรูปคู่ ?
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ช่วงนี้ผมทำงานหนัก ก็เลยไม่ได้ไปในสถานที่ที่จะถ่ายรูปด้วยกัน แต่เราก็ยังใช้ชีวิต กินข้าว ไปนั่นนี่แต่อาจจะไม่ได้ถ่ายรูปลงให้ทุกคนได้เห็นกันเท่านั้นเอง”
พอไม่ได้ถ่ายรูปลงอะไรหวาน ๆ เหมือนเดิมมันต้องมีปรับจูนกัน ?
“มันก็มีครับ ถามว่ามีถ่ายไหมมันก็มีครับแต่อาจจะไม่ได้”
ด้วยเพราะงานเราเยอะขึ้นด้วยไหมเลยอยากจะมีภาพที่โฟกัสกับงานมากกว่าความรักที่ก่อนหน้านี้คือเยอะมาก ?
“ใช่ อันนี้ก็ด้วย หลัก ๆ เรื่องความรักของผมด้วยเมื่อก่อนเราก็เป็นคู่รักที่ถูกคนจับตามอง แต่สุดท้ายแล้ว ถามว่าความรักมีไหมมันยังมีอยู่ แต่ ณ ตอนนี้ผมต้องทำงานไปด้วย ผมจะพูดเสมอไม่ว่าจะวันทอง คุณชาย ผมรู้สึกว่าผมยังไม่ประสบความสำเร็จเลย ผมอยากจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้ ผมอยากจะจริงจังกับมันให้มันมากขึ้นกว่านี้ ผมอยากไปไกลให้มากกว่านี้ ผมอยากจะจริงจังให้มากกว่านี้”
เบสท์เข้าใจฟีลนี้ของเรา ?
“มันก็มีการพูดคุยกัน มีการปรับจูนต่างๆ ก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว”
อีกอันนึงคือเบสท์บอกว่าลงรูปไปก็จะโดนกระแส โดนดราม่าเลยไม่อยากจะลง ?
“เบสท์จะบอกเสมอว่าผู้หญิงจะโดนด่า ก็เป็นเรื่องของข้างนอก ผมจะคอยบอกน้องเสมอว่าสุดท้ายแล้วมันคือความรักของเราสองคน เราจะคิดยังไง จะยังไงผมก็อยากจะจับมือน้องไปด้วยกันสองคน ถามว่าข้างนอกที่เป็นกำลังใจให้ เราขอบคุณเขา เราดีใจมาก แต่อะไรที่ไม่ดีที่มันจะส่งผลต่อความรู้สึกเรา มันจะเข้ามาถึงในชีวิตประจำวันเราด้วย ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น อยากให้ฟังแต่สิ่งดี ๆ สิ่งอะไรที่มันจะใช้ชีวิตต่อ ๆ ไปก็อยากจะให้เรารับฟังกันสองคนมากกว่า”
ดูเบสท์ก็เข้าใจอะไรมากขึ้น เราก็จับมือก้าวผ่านดราม่ากัน ?
“ใช่ครับ ทุกครั้งที่เจออะไรเราก็จะพูดคุยกันเสมอ ก็ขออย่างเดียวคือไม่ว่าใครจะไม่เข้าใจยังไงสุดท้ายขอแค่เราสองคนเข้าใจกันแค่นั้นก็พอแล้ว”
เบสท์บอกจากนี้ให้ตงตงเป็นคนออกมาพูดคนเดียวดีกว่า ขอไม่พูดเรื่องความรักแล้ว ?
“ส่วนใหญ่ผมจะไปร้องเพลงตามอีเวนต์มากกว่า ไม่ได้เจอสื่อหรือถูกสัมภาษณ์อะไรขนาดนั้น ถามว่าให้ผมออกมาพูดอะไรแบบนี้ สุดท้ายผมก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอแค่เพียงเราสองคนรับรู้กันว่าเราอยู่ข้าง ๆ กัน อยู่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันผมว่าเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว”
ย้ำสถานะของเราทั้งคู่ตอนนี้หน่อย ?
“ผมกับน้องก็ยังรักกันเหมือนเดิม ยังไงก็ยังเป็นน้องเบสท์เหมือนเดิม เราก็ยังใช้ชีวิตด้วยกันอยู่เหมือนเดิม”
ล่าสุดน้องเรียนจบเตรียมรับปริญญา ?
“ก็ยินดีกับน้องด้วย น้องได้เกรดดีเลยก็ยินดีที่เขาประสบความสำเร็จ แฟนคลับหรือใครที่ชื่นชอบน้อง รักน้องก็ไปให้กำลังใจน้องด้วยวันที่ 15 ที่ ม.กรุงเทพ”
จะได้เห็นรูปคู่ ?
“รอดูดีกว่าครับ ก็เตรียมตัวไปร่วมยินดีกับน้องครับ”
ของขวัญมีให้น้อง ?
“รอดูครับ แค่ผมไปแสดงความยินดีมันก็คือที่สุดแล้ว”
เราหนักใจไหมเพราะของขวัญน้องแต่ละชิ้นใหญ่ๆมีราคาทั้งนั้น ?
“จริง ๆ ผมเองก็คิดหนักเหมือนกันนะครับ พอคนไปโฟกัสเรื่องนั้น สุดท้ายมันจะไม่ได้ให้อะไรที่เราอยากให้ พอทุกคนโฟกัสว่าตอนนี้ทำมาหลักแสน ปีหน้าต้องหลักล้าน บางครั้งถ้าผมไปเจอสิ่งที่มันมีคุณค่าทางจิตใจที่มันราคา 10-50 บาท แล้วผมอยากจะให้เขา พอเป็นแบบนี้ผมจะกล้าให้เขาเหรอ
ผมเลยจะบอกเสมอว่าสุดท้ายแล้วเรื่องของความรักให้เป็นเรื่องของเราสองคนรับฟังกันเองเถอะ ใครที่ให้กำลังใจมาผมรับไว้ และผมอ่านตลอดครับ อะไรที่ไม่ดีบางครั้งก็อยากให้น้องไม่ต้องไปฟังมาก ไม่ต้องรับมันเข้ามาในชีวิตประจำวันเรา”