ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สัญชาติเกาหลี สุ่มโทรกว่า 30,000 เบอร์
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เกาหลี สิ้นท่า บก.สส.สตม. ร่วมกับชุด PCT ชุดที่ 1 ปฏิบัติการทลาย 4 จุดแก๊งมิจฉาชีพสัญชาติโสม พบเงินหมุนเวียนกว่า 50 ล้านบาท เบอร์โทรศัพท์ไว้โทรสุ่มหาเหยื่ออีกกว่า 30,000 เบอร์
เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 1 และ บก.สส.สตม. ได้รับการประสานงานจากแผนกกงสุลฝ่ายตำรวจ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย ขอความร่วมมือจับกุมบุคคลสัญชาติเกาหลีใต้ผู้มีหมายจับ มีพฤติการณ์จัดตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพื่อหลอกบุคคลสัญชาติเกาหลี ซึ่งเคยเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่ประเทศจีน
โดยต่อมาได้หลบหนีเข้ามายังประเทศไทย แล้วมาตั้งฐานในการกระทำความผิดเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านทั้งสองหลัง พบ นาย ลี จอง (MR.LEE JONG) , นาย จอง (MR.JONG) และ นาย โน (MR.NOH) พร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ต่อมาการสืบทราบว่ามีการกระจายจุดที่ตั้งของพนักงานคอลเซ็นเตอร์ออกไปยังคอนโด 2 ห้อง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบ นายลีและนายซัง โดยผู้ถูกจับทั้ง 5 ราย ให้การรับสารภาพว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่พากันหลบหนีจากประเทศจีน เพื่อมาตั้งฐานในประเทศไทย โดยมีการแบ่งหน้าที่กันคือ นาย ลี จอง ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าแก๊ง คอยควบคุมสั่งการ ดูแลจัดหาที่ตั้งและอุปกรณ์ที่ใช้ อีกทั้งยังเป็นคนคอยจัดการเรื่องเงินที่ได้จากการหลอกลวงมีการโอนเงินไปซื้อขายเหรียญคริปโตอันเป็นลักษณะการฟอกเงิน
ส่วนที่เหลือทำหน้าที่เป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ โทรหาผู้เสียหาย พูดคุย ตามสคริปที่เตรียมไว้ แล้วทำการหลอกให้โอนเงิน โดยใช้อุบายว่าเป็นเจ้าพนักงานอัยการเกาหลี ตรวจสอบพบว่าผู้เสียหายเกี่ยวข้องกับคดีที่มีอัตราโทษร้ายแรง ต้องทำการตรวจสอบเงินในบัญชี เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินมาให้ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย โดยพนักงานจะได้รับเงินรางวัล 5-10 % ของยอดเงินที่หลอกได้ โดยแต่ละคนเคยได้รับเงินรางวัลมากกว่า 150,000 บาท ต่อผู้เสียหาย 1 ราย ซึ่ง นายลีจองจะเป็นผู้จัดสรรยอดเงินนั้น
ทั้งนี้จากการตรวจสอบยังปรากฎรายการเบอร์โทรศัพท์สำหรับการสุ่มโทรมากกว่า 30,000 เบอร์ มีผู้เสียหายจำนวนหลายราย มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท จึงได้ทำการจับกุมตัวพร้อม ของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน กก.สส.บก.ตม.5 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ที่มา : PoliceTV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ