ร้องสรรพากรตรวจสอบ ข่าวสันธนะ นำข้อมูลธุรกิจบริษัทในเครือของ ชูวิทย์ จี้เช็กเสียภาษีย้อนหลังที่อดีตเจ้าพ่ออ่างทองคำทำ แซะมีแบ็กดีเป็นทหาร ออกมาเคลื่อนไหวเพราะหวังผลทางการเมือง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. 2565 นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวที่โรงแรม แกรนด์ เซ็นเตอร์พอยต์ หลังได้มีการรวบรวมพยาน การประกอบธุรกิจ บริษัท ในเครือของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ให้กรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษีย้อนหลัง พร้อมนำเอกสารข้อมูลการทำธุรกิจบริษัทในเครือของนายชูวิทย์ เพื่อให้ตรวจสอบว่า การทำธุรกิจอาบอบนวด ของนายชูวิทย์ เสียภาษีให้กับรัฐมากน้อยอย่างไร
ขณะเดียวกันยังตั้งคำถาม การเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ มีเจตนาแอบแฝงด้วยอาการขับเคลื่อนทางการเมือง หรือไม่
ข้อมูลจากการแถลงข่าวของนายสันธนนะในส่วนที่นำมาเปิดเผยกับสือมวชชนพบว่า บริษัทแห่งหนึ่งของนายชูวิทย์มีความผิดปกติในการกู้ยืมเงิน โดยเฉพาะประเด็นที่บริษัทมีผลประกอบการขาดทุน 400 ล้านบาทเศษ แต่กรรมการบริษัท กลับมีการกู้ยืมเงินบริษัทในระยะยาว 400 กว่าล้านบาทเช่นกัน แม้ว่าจะทำได้แต่ถือว่าผิดปกติ
นอกจากนี้ นายสันธนนะ ระบุว่า ยังพบการทำธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องกับการไถ่ถอนที่ดิน ที่ผิดปกติ จึงเตรียมส่งเอกสารหลักฐานเหล่านี้ให้ กรมสรรพากร ตรวจสอบการเสียภาษีของนายชูวิทย์ ย้อนหลังกลับไปตั้งแต่การประกอบธุรกิจปีแรก
โดยคู่กัดของนายชูวิทย์ที่เคยทำหน้าที่ผู็พิักสันติราษฎ์ได้นำภาพนายทหารรายหนึ่งที่มาร่วมงานแต่งงานลูกชายนายชูวิทย์พร้อมกับกล่าวทำนองว่า การที่นายชูวิทย์ประกอบธุรกิจอาบอบนวดเพราะมีความใกล้ชิดกับทหารคอยเป็นแบ็กให้ ตนเคยเข้าไปดูธุรกิจของนายชูวิทย์ สมัยเป็นสารวัตร จึงทราบข้อมูลพอสมควร ที่ผ่านมานายชูวิทย์เคยมีปัญหาขัดแย้งกับนักธุรกิจที่ทำอาบอบนวด ด้วยกันมาก่อน
ขณะเดียวกัน นายสันธนะกล่าวว่า การเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ มีเจตนาแอบแฝงด้วยการขับเคลื่อนทางการเมือง วันนี้วัตถุประสงค์ทางการเมือง ถือว่าสำเร็จแล้ว จึงเชื่อว่า การเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ น่าจะค่อยๆ ยุติลง
