‘อ.ปวิน’ เย้ย ‘หมอเหรียญทอง’ ปมย้ายไปอยู่ออสเตรเลีย ลั่นสงครามนี้ยังไม่จบ
คืบหน้าประเด็นการย้ายประเทศของ “นายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา” ผู้อำนายการโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ หลังจากเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กตนเอง เหรียญทอง แน่นหนา ว่าจะย้ายไปใช้ชีวิตวัยเกษียณอยู่ที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย
หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปยังโลกออนไลน์ก็ได้เกิดกระแสตีกลับมากมาย โดยเฉพาะการเปิดวอร์ของ “อ.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์” ที่เดินหน้าแคมเปญถึงทางการของประเทศออสเตรเลียให้ปฏิเสธการเข้าพำนักของหมอเหรียญทอง โดยให้เหตุผลว่าหมอเหรียญทองนั้นมีแนวคิดเอนเอียงไปทางฝ่ายสนับสนุนเผด็จการ
จากแคมเปญดังกล่าวของ อ.ปวิน ส่งผลให้ทางหมอเหรียญทองต้องออกมาโพสต์ข้อความตัดพ้อลงในเฟซบุ๊กตนเองเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยระบุว่าตนเป็นเพียงหมอทหาร ไม่มีอำนาจใด ๆ เป็นเพียงคนไทยที่มีบทบาทพิทักษ์ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 50
พร้อมยังกล่าวว่ากลุ่มคนที่พยายามจะขัดขวางไม่ให้ตนเองได้เดินทางไปยังประเทศออสเตรเลียนั้น ทำการว่าความใส่ร้ายว่าหมอเหรียญทองเป็นฝ่ายเผด็จการ แถมยังมีการล่ารายชื่อต่อต้านตนเองอีกด้วย ความว่า
“ผมเป็นข้าราชการทหารบำนาญ ลาออกจากกองทัพตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 หรือนานกว่า 15 ปีแล้ว
ระหว่างรับราชการเป็นแค่ทหารหมอ ไม่ได้เป็นผู้บังคับหน่วยคุมกำลังรบ จึงไม่มีอำนาจใดๆ
เมื่อลาออกจากกองทัพในปี พ.ศ.2550 ผมก็มำทำหน้าที่กรรมการผู้จัดการ บริษัท มงกุฎวัฒนะจำกัด (มหาชน) , ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ และประธานบริษัทเล็กๆในเครือ บมจ.มงกุฎวัฒนะ …พูดง่ายๆว่าเป็นนักธุรกิจภาคเอกชนไปตั้งนานกว่า 15 ปีแล้ว
ผมมีบทบาทในภาคสังคมในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่มีหน้าที่ ‘ปวงชนชาวไทย’ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 50 ในการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ผมเข้าร่วมกับประชาชนที่มีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ในปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง
ทั้งๆที่ผมเป็นทหารนอกราชการนานกว่า 15 ปีแล้ว เป็นแค่นักธุรกิจธรรมดาๆ คนหนึ่ง ไม่ได้มีอำนาจรัฐ ไม่มีอำนาจเถื่อ่นด้วย ไม่ใช่เจ้าพ่อ มาเฟีย หรือผู้มีอิทธิพล ผู้กว้างขวางใดๆทั้งนั้น ไม่ใช่คณะรัฐประหาร แต่มีขบวนการให้ร้ายใส่ความว่าผมเป็นเผด็จการ เพื่อต่อต้านผมไม่ให้เข้าประเทศออสเตรเลีย-ยุโรป-สหรัฐฯ ทั้งๆที่ผมไม่ได้อพยพย้ายถิ่นฐาน ผมก็แค่เดินทางไปๆมาๆ เพื่อพักผ่อนท่องเที่ยวเช่นเดียวกับปกติชนทั่วไป
แต่ขบวนการสามานย์กลับปั่นข่าวการเดินทางไปต่างประเทศอย่างกับผมจะอพยพย้ายถิ่นฐานเสียอย่างนั้น ทั้งยังมีขบวนการ ‘บ้าจี้’ ล่ารายชื่อเพื่อต่อต้านผมไม่ให้เข้าประเทศออสเตรเลีย จนนักข่าวชื่อ คริส บาร์เร็ต [Christ Barrett] จากสำนักข่าว ซิดนีย์มอร์นิ่งเฮอรัลด์ [Sydney Morning Herald] บ้าจี้ตามไปด้วย
คริส บาร์เร็ต [Christ Barrett] ขอสัมภาษณ์ผม แต่ผมไม่ขอเสียเวลาให้สัมภาษณ์ข่าวที่เกิดจากการปั่นข่าวบ้าบออย่างนี้หรอกครับ
ผมเป็นคนธรรมดาๆ ไม่ยิ่งใหญ่ ไม่มีอำนาจ ไม่ใช่อภิมหาเศรษฐี ไม่ใช่นักการเมืองที่น่าสนใจอะไรกันหรอกครับ
บ้าจี้ล่ารายชื่อต่อต้านผม ถ้ารัฐบาลออสเตรเลียหรือสถานทูตออสเตรเลียหลงเชื่อการปั่นข่าวเกี่ยวกับผมในลักษณะจอมเผด็จการแล้ว ผมอยากจะบอกรัฐบาลออสเตรเลียหรือสถานทูตออสเตรเลียว่า “พวกท่านคุณมึงบ้าจี้ไปกันใหญ่แล้ว”
ใครก็ตามที่อ่านโพสต์นี้ช่วยแปลให้คุณ คริส บาร์เร็ต นักข่าวซิดนีย์มอร์นิ่งเฮอรัลด์ [Sydney Morning Herald] ทราบด้วยว่า “อย่าไปบ้าจี้หลงเชื่อข่าวไร้สาระจากการปั่นข่าวของขบวนการเฟคนิวส์เลย เอาเวลาไปนั่งดื่มชากาแฟจะดีกว่าครับ”
พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
2 ธ.ค.65 เวลา 9.52 น.
หมายเหตุ ปี 66 ผมต้องเดินทางไปหลายประเทศในสหภาพยุโรป และสาธารณรัฐประชาชนจีน ผมเดินทางไปๆมาๆต่างประเทศ มันไม่น่าสนใขหรอกนะครับ”
ล่าสุดวันที่ 3 ธันวาคม 2565 ก็มีรายงานความเคลื่อนไหวจากทางฝั่ง อ.ปวิน ซึ่งได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Pavin Chachavalpongpun กล่าวถึงกรณีที่หมอเหรียญทองออกมาโพสต์ข้อความตัดพ้อ โดยกล่าวว่าที่หมอเหรียญทองโพสต์มาทั้งหมดนั้นเป็นการ “แก้ตัว”
เนื่องจากก่อนหน้านี้หมอเหรียญทองเคยบอกว่า “เผด็จการอย่างผม รัฐบาลออสเตรเลียต้อนรับน๊ะจ๊ะ” แต่หลังจากที่ถูกสกัดดาวรุ่งต่อต้านไม่ให้เข้าออสเตรเลีย ก็โอดครวญว่าตนไม่ใช่ฝ่ายเผด็จการเสียอบ่างนั้น ความว่า
“ดิ้นสิมึง อีเหรียญปากผี แก้ตัวพัลวัน กลายเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ไม่มีอิทธิพล ไม่ใช่มาเฟีย เป็นแค่นักธุรกิจตัวเล็กๆ เอว 24 แถมกล้าเขียนด้วยว่าไม่ได้เป็นเผด็จการ ทั้งๆ ก่อนหน้านี้ได้เขียนชัดว่าๆ “เผด็จการอย่างผม รัฐบาลออสเตรเลียต้อนรับน๊ะจ๊ะ” (ดูรูปประกอบในคอมเมนท์) 55555 อีตoแหล กลัวขี้หดเลยนะคะ
…ยังค่ะ ยังไม่จบ วันที่ 5 ธันวานี้ คนไทยในซิดนีย์จะจัดเต็มคาราเบล ประท้วงหน้า Town Hall เรียกร้องให้อออสเตรเลียปฏิเสธการเข้าประเทศของมึง (รายละเอียดในคอมเมนท์) แล้วสื่อที่ Perth จะเขียนบทความประจานความชั่วของมึงค่ะ
…อ้อ การล่ารายชื่อยังมีต่อนะคะ เพื่อส่งไปรัฐบาลออสเตรเลีย รายละเอียดตามนี้ค่ะ https://chng.it/Wrdds8sJB7
…มึงเคยไล่ล่าคนอื่น ตอนนี้กูขอไล่ล่ามึงบ้างค่ะ อย่าเพิ่งรีบตาย!
#เหรียญทอง #กำจัดไอ้สัสนรกตัวนี้”
ด้านชาวเน็ตที่ติดตามประเด็นดังกล่าวก็แบ่งพรรคแบ่งพวกออกเป็น 2 ฝ่ายอย่างชัดเจน โดยฝ่ายหนึ่งที่เห็นด้วยกับหมอเหรียญทองก็แสดงความคิดเห็นว่าหมอเหรียญทองไม่ได้อะไรผิด ไม่สมควรได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ และขอให้รัฐบาลออสเตรเลียพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้ถี่ถ้วน
สำหรับฝ่ายต่อต้านหมอเหรียญทองก็เดินหน้าล่ารายชื่อต่อต้านกันต่อไป เนื่องจากพฤติกรรมของหมอเหรียญทองทำให้ใครหลายคนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งบางคนต้องสูญเสียอนาคตเพราะหมอเหรียญทองก็มี
ทั้งนี้ประเด็นระหว่าง อ.ปวิน และ หมอเหรียญทอง จะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม ทางเดอะไทยเกอร์จะรีบนำมารายงานให้ทราบโดยทันที.