สภาพอากาศวันนี้ 29 พ.ย. 65 เตรียมผ้าห่ม! หมดฝนนี้หนาวแน่ 30 พ.ย.-4 ธ.ค. 65 นี้
สภาพอากาศวันนี้ 29 พฤศจิกายน 2565 กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาพอากาศ ช่วงวันที่ 30 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม 2565 เมื่อฝนฟ้าคะนองผ่านไปประเทศไทยตอนบนจะเริ่มมีอากาศหนาวเย็นมากขึ้น
สภาพอากาศ ประจำวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 พยากรณ์อากาศวันนี้ 24 ชั่วโมงข้างหน้า อัปเดตข่าวฝน ลมฟ้าอากาศวันนี้ เรดาร์ฝนตรวจสอบสภาพอากาศ พบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ โดยภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ไว้ด้วย
สำหรับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับมีลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในช่วงวันที่ 30 พ.ย.–4 ธ.ค. 2565 ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรกและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง
ส่วนในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค. 2565 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มจะมีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง
คาดว่าในช่วงวันที่ 4–5 ธ.ค. 2565 จะเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนล่างลงสู่ทะเลอันดามัน ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 3 –4 ธ.ค. 2565
สภาพอากาศตำแหน่งปัจจุบัน อิงตามภูมิภาคดังนี้
พยากรณ์อากาศภาคเหนือ
สำหรับพื้นที่ภูมิภาค ภาคเหนือ มีสภาพอากาศ ดังนี้
อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
พยากรณ์อากาศภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สำหรับพื้นที่ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีสภาพอากาศ ดังนี้
อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ เลย สกลนคร อุดรธานี นครราชสีมา
บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
พยากรณ์อากาศภาคกลาง
สำหรับพื้นที่ภูมิภาค ภาคกลาง มีสภาพอากาศ ดังนี้
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี
พระนครศรีอยุธยา นครปฐม และสมุทรสาคร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
พยากรณ์อากาศภาคตะวันออก
สำหรับพื้นที่ภูมิภาค ภาคตะวันออก มีสภาพอากาศ ดังนี้
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
พยากรณ์อากาศภาคใต้ฝั่งตะวันออก (ฝั่งอ่าวไทย)
สำหรับพื้นที่ภูมิภาค ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีสภาพอากาศ ดังนี้
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
พยากรณ์อากาศภาคใต้ฝั่งตะวันตก (ฝั่งอันดามัน)
สำหรับพื้นที่ภูมิภาค ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีสภาพอากาศ ดังนี้
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
พยากรณ์อากาศกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
สำหรับพื้นที่ภูมิภาค กรุงเทพฯ มีสภาพอากาศ ดังนี้
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.