Dispatch เผย ‘อีซึงกิ’ ถูกค่ายโกง ร้องเพลงมา 18 ปี แต่ไม่เคยได้รับค่าตอบแทน
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2022 ที่ผ่านมา สำนักข่าว Dispatch ของประเทศเกาหลีใต้ รายงานข่าวที่ทำให้แฟน ๆ ของนักแสดงหนุ่ม “อีซึงกิ” (Lee Seung Gi) ถึงกับช็อกไปตาม ๆ กัน โดยในข่าวได้ระบุว่าตลอดระยะเวลา 18 ปี ที่อีซึงกิอยู่ในวงการบันเทิงมา เขาไม่เคยได้รับค่าตอบแทนในการทำเพลงจากค่าย Hook Entertainment เลยแม้แต่วอนเดียว
หลายคนอาจจะรู้จักหนุ่มอีซึงกิในฐานะนักแสดงชื่อดัง แต่แท้จริงแล้วเขาเริ่มเดบิวต์เข้าสู่วงการบันเทิงจากการเป็นนักร้องเมื่อปี 2004 ด้วยอัลบัม The Dream Of A Moth โดยผลงานเพลงที่ทำให้ซึงกิเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงมาจากเพลง Because You’re My Girl ด้วยผลงานชิ้นนี้เองที่ทำให้ทางค่ายเริ่มมองเห็นเม็ดเงินที่พวกเขาจะได้ผ่านอีซึงกิ
หลังจากเริ่มมีชื่อเสียงอีซึงกิก็ถูกทางค่าย Hook Entertainment หลอกให้ทำสัญญาทาส โดยเอกสารที่ซึงกิได้เริ่มเซ็นสัญญาตั้งแต่ช่วงแรกของการเข้าสู่วงการบันเทิง ก็ถูกทางค่ายทำลายไปจนไม่สามารถระบุตัวเลขจำนวนเงินที่แท้จริงที่อีซึงกิควรจะได้รับจากการทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยของเขาตลอด 18 ที่ผ่านมาได้ และถึงแม้ว่าทางอีซึงกิจะมีการส่งเรื่องร้องขอดูเอกสารต่าง ๆ แต่ก็ดูเหมือนว่าทาง Hook Entertainment จะทำการตกแต่งบัญชีเพื่อหลอกลวงซึงกิอยู่ตลอด
ทั้งนี้ทางสำนักข่าว Dispatch ยังได้เปิดเผยอีกว่าทางนักแสดงหนุ่มอีซึงกิ ได้ทำการส่งทนายเพื่อเตรียมฟ้องค่ายต้นสังกัด หลังยื่นข้อเรียกร้องขอดูหลักฐานแสดงรายได้ทั้งหมดจากผลงานเพลงของซึงกิกว่า 137 เพลง 27 อัลบัม ตลอดช่วงเวลา 18 ปี ส่วนสาเหตุที่อีซึงกิไม่ได้รับค่าตอบแทนจากการทำผลงานเพลงของตัวเองนั้นมาจากการที่ถูกค่ายต้นสังกัดปั่นหัวว่าเป็น “นักร้องที่ไม่ทำเงิน”
สำหรับจุดเริ่มต้นของการออกมาเรียกร้องหาหลักฐานแสดงรายได้ของอีซึงกิครั้งนี้ มาจากการส่งข้อความผิด โดยเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2021 ทางหนุ่มอีซึงกินั้นได้รับข้อความที่ระบุถึงรายได้จากผลงานเพลงที่ผ่านมาของเขา ดังนี้
The Ordinary Man ขายได้ 63.8 พันล้านวอน (1.7 พันล้านบาท)
The Project อัลบัมที่ 7 ของ อีซึงกิ 170 ล้านวอน (4.5 ล้านบาท)
ทั้งหมด 234 ล้านวอน (6.25 ล้านบาท)
ค่าโปรดักชัน 200 ล้านวอน (5.34 ล้านบาท)
ส่วนต่าง 33.6 ล้านวอน (8.9 แสนบาท)
ใบกำกับภาษีจะออกเดือนนี้ และจะนำฝากในเดือนถัดไป
เหตุนี้เองจึงทำให้อีซึงกิได้รับรู้ว่าอย่างน้อยตัวเขาก็ไม่ใช่นักร้องที่ไร้ความสามารถและไม่สร้างมูลค่าให้กับทางค่าย หากอิงจากการเซ็นสัญญาในตอนแรก อีซึงกิต้องได้รับค่าตอบแทน 60% จากยอดขายเพลงในปี 2009-2016 จำนวน 6.5 พันล้านวอน หรือ 173 ล้านบาท และได้รับค่าตอบแทนเพิ่มอีก 70% ในช่วงปี 2017-2022 จำนวน 2.9 พันล้านวอน หรือ 77 ล้านบาท
แต่ในหลักฐานแสดงรายได้ที่ Dispatch นำมาเปิดเผยนั้นกลับพบว่าค่าตอบแทนในช่วงเดือนมิถุนายน 2004 – สิงหาคม 2009 ถูกลบหายไป จึงทำให้ไม่สามารถคำนวณรายได้ที่แท้จริงของอีซึงกิได้ว่าสรุปแล้วซึงกิควรได้รับค่าตอบแทนทั้งสิ้นเป็นจำนวนกี่ล้านวอนกันแน่ ซึ่งแหล่งข่าวหลายแห่งก็ได้ระบุว่าหากรวมรายได้ที่หายไปของซึงกิ อาจมีมูลค่ามากถึง 1 หมื่นล้านวอนก็เป็นได้
นอกจากประเด็นเรื่องของรายได้และสัญญาที่ไม่เป็นธรรมที่ค่าย Hook Entertainment กระทำต่อนักแสดงหนุ่มอีซึงกิแล้วนั้น ทางค่ายดังกล่าวยังมีปัญหาเรื่องการข่มขู่อีซึงกิและผู้จัดการส่วนตัวอีกด้วย อีกทั้งยังมีการด่าทอและขู่ฆ่าอีซึงกิหลังรู้ว่านักแสดงหนุ่มส่งเอกสารยอดขายเพลงไปตรวจสอบความโปร่งใส
อย่างไรก็ตาม ทางด้านของต้นสังกัด Hook Entertainment ก็ได้ถูกเจ้าหน้ากองบังคับการสืบสวนคดีอาชญากรรมร้ายแรงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ บุกค้นอาคารนานกว่า 5 ชั่วโมง ซึ่งภายหลังเปิดเผยว่าการบุคค้นดังกล่าวนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการยักยอกทรัพย์ของผู้บริหารบางคน
ส่วนประเด็นการเรียกร้องของนักแสดงหนุ่มอีซึงกิ ทางค่าย Hook Entertainment ก็ได้ออกมาแถลงการณ์รับทราบข้อเรียกร้องต่าง ๆ แล้ว และกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว พร้อมทั้งขอโทษที่ไม่ได้ออกมาชี้แจงต่อข้อกล่าวหาต่าง ๆ ของตัวเองดังที่ปรากฏในสื่อ ทั้งนี้ทางค่ายจะมีการชี้แจงอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังจากที่เรื่องราวทุกอย่างผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว.