Looks like you have an outdated version of Thaiger ภาษาไทย! It is recommended to keep the theme up to date for security reasons and new features Jannah Theme
บันเทิง

รีวิว Blue is the Warmest Color แด่วันที่เรารู้จักความรักมากขึ้น

หากกล่าวถึงภาพยนตร์ที่โด่งดังในสังคม LGBTQ+ ทั้งในด้านบวกและด้านลบ คงหนีไม่พ้นที่จะต้องพูดถึงภาพยนตร์เลสเบี้ยนสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง “Blue is the Warmest Color” หรือในชื่อไทยว่า “วันที่หัวใจกล้ารัก” โดยความดีงามของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ส่งผลให้ผู้กำกับที่พ่วงตำแหน่งคนเขียนบทอย่าง Abdellatif Kechiche และสองสาวนักแสดงนำ Léa Seydoux และ Adèle Exarchopoulos ได้รับรางวัลปาล์มทองคำในเทศกาลหนังเมืองคานส์เมื่อปี 2013

แต่อีกด้านหนึ่ง ภาพยนตร์เรื่อง Blue is the Warmest Color ก็นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงเกี่ยวกับฉากเลิฟซีนที่ถ่ายทำออกมาโจ่งแจ้งและมีมากจนเกินไป ถึงขนาดที่ว่าหนังเรื่องนี้ได้เรต NC-17 จากสมาคมภาพยนตร์อเมริกาเลยทีเดียว อีกทั้งตัวนักแสดงเองก็ยังออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าพวกเธอถูกผู้กำกับบังคับให้ถ่ายฉากร่วมเพศอย่างลึกซึ้งนานถึง 10 วัน ซึ่งหลังจากที่ถ่ายทำเสร็จ สองนักแสดงหญิงของเรื่องก็ต้องเข้าพบจิตแพทย์ในทันที

สำหรับเรื่อง Blue is the Warmest Color ออกฉายเมื่อช่วงปี 2013 สร้างมาจากนวนิยายกราฟิกโนเวลในชื่อเดียวกันของนักเขียนชาวฝรั่งเศส Jul Maroh โดยใช้ชื่อเรื่องว่า La Vie d’Adèle เป็นเรื่องเกี่ยวกับหญิงสาวชื่อว่า Adèle ที่หลังจากเลิกกับแฟนหนุ่ม เธอก็ตกหลุมรัก Emma สาวผมฟ้าที่พบกันในบาร์เลสเบี้ยน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาไปพร้อมกับการเติบโต จนในที่สุด Adèle ก็ได้ค้นพบตัวตนและเข้าใจความหมายของรักแท้

Blue is the Warmest Colour
ภาพจาก : Youtube Sundance Now

| เส้นแบ่งระหว่าง ‘รัก’ และ ‘หลงใหล’ ที่ชัดเจน

อาจกล่าวได้ว่าความสัมพันธ์ในวัยเยาว์นั้นมีกลิ่นและรสชาติที่หอมหวนมากกว่า เพราะมันเต็มเปี่ยมไปด้วยราคะ เสน่หา ความอยากรู้อยากลอง ความหลงใหล และท็อปปิงด้วยความรักแบบเจือจางจนมองเห็นได้ยาก แต่การที่เราท็อปปิงความสัมพันธ์ด้วยความรัก มันจึงทำให้เรามองเห็นความรักได้มากกว่าองค์ประกอบส่วนอื่น ๆ และเชื่อว่าความสัมพันธ์ทั้งหมดนั้นส่วนใหญ่แล้วล้วนเป็นความรัก

แต่ในขณะที่เราเติบโตขึ้น ประสบการณ์ชีวิตก็ช่วยลดทอนองค์ประกอบต่าง ๆ ของความสัมพันธ์ให้เหลือน้อยลง จนกระทั่งเรามองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าแท้จริงแล้วความรักคืออะไรกันแน่ เช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่อง Blue is the Warmest Color ที่พาผู้ชมออกสำรวจช่วงชีวิตหนึ่งของหญิงสาววัย 15 นามว่า Adèle โดยชีวิตของเธอนั้นไม่ได้พิเศษหรือแตกต่างไปจากชีวิตวัยรุ่นคนอื่น ๆ แต่อย่างใด

ในทางตรงกันข้าม ชีวิตของ Adèle นั้นออกจะธรรมดาค่อนไปทางจืดชืดเสียด้วยซ้ำ จนกระทั่งเธอได้พบกับ Emma หญิงสาวผมฟ้าที่เข้ามาเติมสีสันในชีวิตให้กับเธอ แม้ในช่วงสุดท้ายของความสัมพันธ์ สีฟ้าจะกลายเป็นสีที่เย็นชากับเธอเสียเหลือเกิน แต่อย่างไรก็ตาม Adèle ก็รู้ซึ้งแก่ใจว่าช่วงระยะเวลาหนึ่ง สีฟ้านั้นอบอุ่นและสร้างความวาบหวามได้มากเพียงใด

รีวิว Blue is the Warmest Colour
ภาพจาก : Youtube Sundance Now

| การค้นพบ ‘ตัวตนใหม่’ ที่อาจใช่หรือไม่ใช่ ‘ตัวตนเดิม’

นับตั้งแต่วันที่ Adèle เลิกรากับแฟนหนุ่ม จนกระทั่งพบกับ Emma ที่บาร์เลสเบี้ยน นับเป็นช่วงชีวิตที่ Adèle ใช้เวลาในการเติบโตอย่างคุ้มค่า เธอกระหายใคร่รู้ในความรัก เธอหลงใหลในความสัมพันธ์แปลกใหม่ จนกระทั่งเธอค้นพบว่าแท้จริงแล้วตัวตนของเธอนั้นเป็นอย่างไร อะไรคือความต้องการที่แท้จริง และใช่เพียง Adèle เท่านั้น แต่ผู้ชมทุกคนก็ล้วนเติบโตและก้ามข้ามพ้นวัยไปพร้อมกับตัวละครด้วยเช่นกัน

เพราะเมื่อยิ่งเราเติบโตขึ้น ก็ยิ่งมองเห็นหมุดหมายสำคัญในชีวิตได้ชัดเจน ซึ่งบางครั้งความรักดี ๆ นั้นอาจไม่ได้มาจากความสัมพันธ์สดใหม่หรือเร่าร้อน แต่อาจเป็นเพียงความมั่นคงที่อบอุ่น และพร้อมจับมือไปด้วยกันในทุกช่วงเวลา โดยท้ายที่สุดแล้วเราก็จะเข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง เมื่อสั่งสมประสบการณ์ชีวิตได้มากพอ

หนัง วันที่หัวใจกล้ารัก
ภาพจาก : Youtube Sundance Now

| ในวันที่ ‘สีฟ้า’ เป็นได้ทั้งความใกล้ชิดและความหมางเมิน

จะเห็นได้ว่าในภาพยนตร์เรื่อง Blue is the Warmest Color เล่าเรื่องหญิงสาวคนหนึ่งได้อย่างเงียบเชียบ ผ่านการคุมโทนหนังให้อยู่ในสภาวะครึ่ง ๆ กลาง ๆ ระหว่างความปรีดาและความมัวหมอง เหมือนกับจิตใจที่สับสันของ Adèle

ยามอยู่ข้าง Emma ความสุขเฉิดฉายผ่านรอยยิ้มของเธอ แต่ในใจลึก ๆ แล้วเธอยังคงมองว่าการคบผู้หญิงคือสิ่งที่ไม่ควรถูกป่าวประกาศ ทำให้ทุกอย่างปรากฏออกมาผ่านฉากทะมึน ๆ ที่ผู้ชมจะได้เห็นตลอดทั้งเรื่อง

ในขณะเดียวกันคาแรกเตอร์ของ 2 นักแสดงนำที่ถูกดีไซน์ออกมาอย่างชัดเจน ผ่านแววตาและสีหน้า โดยฝ่าย Adèle มักจะมีความใคร่รู้และแรงปรารถนาอย่างเต็มเปี่ยม ต่างจาก Emma ที่แววตาของเธอมุ่งมั่น และการกระทำของเธอก็เด็ดเดี่ยว เหมือนเธอรู้ตัวตลอดว่าเป้าหมายที่แท้จริงในชีวิตคืออะไร

นับว่าเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตของคน 2 คน ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และแน่นอนว่าในท้ายที่สุดแล้วทั้งคู่ก็ตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบเส้นขนาน ที่สุดท้ายก็ไม่มีวันมาบรรจบกันได้ กลายเป็นเดียงแค่สมุดความทรงจำในช่วงหนึ่งของชีวิตกันและกัน

รีวิวหนังเลสเบี้ยน Blue is the Warmest Colour
ภาพจาก : Youtube Sundance Now

| ให้คะแนนภาพยนตร์เรื่อง Blue is the Warmest Color

หากไม่เอ่ยถึงข่าวฉาวของผู้กำกับ Abdellatif Kechiche ก็ยังนับว่าภาพยนตร์เรื่อง Blue is the Warmest Color ทำออกมาได้ดีมาก ๆ เว้นเสียแต่ว่าการเขียนบทที่ยัดฉากเซ็กซ์เข้ามามากเกินไปจนน่าสะอิดสะเอียน

แม้ในช่วงแรกของฉากร่วมเพศจะให้อารมณ์สุนทรีย์ ผ่านการถ่ายทำที่เต็มไปด้วยศาสตร์และศิลป์ แต่เมื่อมีมันมีมากจนเกินพอดี ก็ส่งผลให้ภาพรวมของเรื่องแย่ลงตามไปด้วย

ทั้งนี้ในส่วนขององค์ประกอบอื่น ๆ ภายในเรื่อง ก็ช่วยกันทำหน้าที่ไม่ให้ Mood and Tone ของหนังดรอปลงไปมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่อง บรรยากาศ ฉาก งานภาพ ฝีมือการแสดงของนักแสดงนำ ทั้งหมดทั้งมวลยังคงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมาะสมและมีคุณค่าคู่ควรกับรางวัลปาล์มทองคำ 2013

  • ภาพรวม : 8/10
  • บทภาพยนตร์ : 7/10
  • การดำเนินเรื่อง : 8/10
  • งานภาพ โปรดักชั่น : 9/10
  • ดนตรีประกอบ : 7/10

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Mothana

นักเขียนข่าวที่ Thaiger การศึกษาทางด้านภาษา จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จึงรับหน้าที่เขียนบทความไลฟ์สไตล์บันเทิง เศรษฐกิจ อยากเป็นสื่อกลางคอยขุดคุ้ยประเด็นตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงใหญ่โตมาเขียนให้ทุกคนได้อ่าน เพราะมีความเชื่อว่าสื่อที่ดีย่อมเป็นหนทางนำผู้อ่านไปสู่งานเขียนที่ดีได้ ติดต่อได้ทาง tangmo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx