คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ประกาศถอด ฟุตบอลโลก ออกจากกฎ มัสต์ แฮฟ – มัสต์ แครี่ อย่างแน่นอน
ความคืนหน้าการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ของประเทศไทย หลังจากที่ทาง กสทช. อนุมัติงบประมาณ 600 ล้านบาทให้กับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อซื้อสิทธิ์การถ่ายทอดสด จากจำนวนเต็ม 1,600 ล้านบาทที่กกท.ได้เสมอไป
หลายภาคส่วนมองเห็นตรงกันว่ากฎ มัส์ แฮฟ (Must Have) ที่ทางกสทช.ที่ระบุไว้ว่า คนไทยจะต้องได้ดู 7 มหกรรมกีฬานี้แบบฟรีๆ ได้แก่ ซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เอเชียนเกมส์, เอเชียนพาราเกมส์, โอลิมปิกเกมส์, พาราลิมปิกเกมส์ และ ฟุตบอลโลก พร้อมด้วยกฎ มัสต์ แครี่ (Must Carry) ที่ระบุว่า ต้องดำเนินการให้ทุกแพลตฟอร์มให้คนไทยได้ชมแบบฟรีๆ ซึ่งเป็นการกีดกันภาคเอกชนที่จะเข้าไปประมูลซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก ทำให้ภาครัฐต้องเสียเงินทุกๆ 4 ปีเป็นจำนวนหลักร้อยถึงหลักพันล้านบาทไปแบบสูญเปล่า
ล่าสุดนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ก่อนจะได้รับการยืนยันว่า จะมีการปรับปรุงแน่นอน ตอนที่คณะกรรมการชุดเก่าออกกฎนี้มา รูปแบบ แพลตฟอร์ม ยังไม่เยอะเท่าปัจจุบัน ตอนนั้นแค่ต้องการให้คนไทยได้รับชมกีฬาดีๆ จึงตั้งเป็น Must Have และอยากให้เข้าถึงทุกคนดูได้ทุกแพลตฟอร์ม จึงเป็น Must Carry แต่ตอนนี้มันทำให้ลำบากต่อการทำธุรกิจ ทางบอร์ด กสทช. ก็ตั้งใจจะปรับให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะมองว่าไม่ใช่หน้าที่ กสทช. ที่ต้องมาออกเงินทุกๆ 4 ปีแบบนี้ แต่เมื่อกฎที่สร้างไว้เป็นปัญหา ก็ปรับแก้ไข
นอกจากนี้ นายไตรรัตน์ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า เท่าที่คุยมาคือ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ สามารถใช้เงินได้ต่อเมื่อมีนักกีฬาไทยไปแข่งขัน ดังนั้น 6 ประเภทหลัก (ซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์, เอเชี่ยนพาราเกมส์, โอลิมปิกเกมส์ และพาราลิมปิกเกมส์) มีนักกีฬาไทยไปแข่งแน่นอน
ส่วนฟุตบอลโลกตอนนี้ ยังไม่มีทีมชาติไทยไปแข่งขันก็ยกเลิกไปก่อน ในอนาคตถ้ามีก็ค่อยนำกลับเข้ามาได้ หรือจะออกเป็นข้อยกเว้นต่างๆ หรือยกเลิก Must Carry ไม่ต้องถ่ายทุกแพลตฟอร์มก็ได้ อยู่ที่การคุยกันตอนจะออกกฎใหม่ อย่างไรก็ตามต้องมีการทำประชาพิจารณ์ก่อน ดังนั้นสามารถรับฟังข้อเสนอจากประชาชนได้ ค่อยนำมาปรับแก้ไขกันต่อไป
>> สนใจลงโฆษณา บทความ Backlink กับ Thaiger ติดต่อคุณโอ๋ orakarn@thethaiger.com <<