เจ้าบ่าวฉุนจัด ล้มงานแต่งตัวเอง เหตุแม่ไม่ได้นั่งโต๊ะประธาน
กลายเป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ของประเทศจีนอย่างหนัก เมื่อเกิดเหตุเจ้าบ่าวพังงานแต่งตัวเอง เนื่องจากแม่ไม่ได้นั่งโต๊ะประธาน ซ้ำร้ายยังถูกฝั่งเจ้าสาวดูถูกว่ามาจากบ้านนอก ไม่มีใครอยากเข้าใกล้
แหล่งข่าวระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวของหนุ่มชนบทชาวจีนคนหนึ่งนามว่า “ต้าเป่า” ที่กำพร้าพ่อตั้งแต่เด็ก ทำให้แม่ต้องเลี้ยงดูเขาคนเดียว และแม่ก็เป็นคนที่ต้าเป่ารักที่สุดในชีวิต
ต้าเป่ามีโอกาสได้เจอหญิงสาวจากในเมืองชื่อว่า “ซู่หลิง” ซึ่งมีพ่อเป็นปลัดอำเภอ จึงทำให้ฐานะการเงินทางบ้านของซู่หลิงนั้นร่ำรวยกว่าต้าเป่า แต่กระนั้นผู้ใหญ่ทางบ้านของซู่หลิงก็ไม่รังเกียจที่ซู่หลิงจะคบหาดูใจกับต้าเป่า
หลังจากที่ต้าเป่าและซู่หลิงคบกันไปได้ระยะหนึ่ง ก็ตัดสินใจแต่งงานกัน โดยทางครอบครัวของซู่หลิงรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดงาน จัดหาสินสอด รวมไปถึงจัดหาของขวัญวันแต่งงานให้แก่คู่บ่าวสาวด้วย
พิธีวิวาห์ของต้าเป่าและซู่หลิงเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ มีแขกชื่อดังมากมายเข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นเป็นไปได้ด้วยดี จนกระทั่งหลังจากบ่าวสาวรับแขกเสร็จแล้วกลับเข้ามาร่วมงาน
ต้าเป่าพบว่าแม่ของตนเองไม่ได้อยู่ที่โต๊ะของประธาน จึงสอบถามทางครอบครัวของเจ้าสาวว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้ต้าเป่าทราบว่าแม่ของตนเองถูกจัดให้นั่งโต๊ะเล็กรวมกับญาติ ๆ ฝั่งต้าเป่าที่ตั้งอยู่ออกไปไม่ไกลนัก
เมื่อทราบความดังนั้นต้าเป่าจึงเดินเข้าไปเชิญแม่มานั่งที่โต๊ะประธานร่วมกับครอบครัวฝั่งซู่หลิง แต่แม่ก็มีท่าทีขัดขืนไม่ยอมไป จนในที่สุดแม่ของต้าเป่าก็เผยออกมาว่าแม่ของซู่หลิงจัดที่นั่งให้ตนมานั่งตรงนี้เนื่องจากโต๊ะประธานมีที่นั่งไม่พอ
เหตุนี้เองทำให้ต้าเป่าโมโหอย่างมากที่ครอบครัวฝ่ายเจ้าสาวไม่ให้ความเคารพแม่ของตน นำไปสู่การโต้เถียงกันระหว่างต้าเป่าและครอบครัวซู่หลิง โดยทางครอบครัวฝั่งเจ้าสาวได้พูดจาดูถูกดูแคลนต้าเป่าและแม่ว่ามาจากบ้านนอก ควรจะเจียมเนื้อเจียมตัว
ด้านต้าเป่าไม่ยอมแพ้ หันไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าสาวซู่หลิง แต่เรื่องราวกลับตาลปัตรไปอีกทาง เมื่อซู่หลิงไม่ได้เอ่ยวาจาเข้าข้างต้าเป่าแต่อย่างใด อีกทั้งยังยืนชี้หน้าด่าทอต้าเป่ากับแม่ว่าเป็นคนบ้านนอก โชคดีแค่ไหนที่ได้มาแต่งงานกับคนสถานะร่ำรวยอย่างเธอ
บทสรุปของเรื่องนี้จบลงที่ต้าเป่าทำลายข้าวของในพิธีแต่งงาน ก่อนออกจากงานไปพร้อมกับแม่ของตน ซึ่งชาวเน็ตที่ได้ทราบเรื่องต่างก็แบ่งออกเป็นสองฝ่าย โดยฝ่ายหนึ่งมองว่าต้าเป่าน่าจะอดทนต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อีกฝ่ายหนึ่งกลับมองว่าดีแล้วที่ต้าเป่าทำแบบนั้น
ฝ่ายที่เข้าข้างต้าเป่ามองว่าครอบครัวของเจ้าสาวไม่ได้ยอมรับสถานะที่แท้จริงของต้าเป่าและแม่เลย การที่นิสัยลึก ๆ ในใจของพวกเข้าถูกเปิดเผยออกมาแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องดี ไม่เช่นนั้นหากต้าเป่าได้รับพฤติกรรมครอบครัวฝ่ายเจ้าสาวหลังจากแต่งงานไปแล้ว อาจจะเกิดความอึดอัดใจในชีวิตคู่ได้.