เปิบพิสดาร ครูสาวโชว์กินค้างคาว หักปีก หักคอ จิ้มน้ำพริกเดือด
ครูสาวเปิบพิสดาร กินค้างคาว ซดน้ำซุป หักปีก หักคอ จิ้มน้ำพริกจนดราม่าเดือด หมอธีระวัฒน์ เตือน อย่าหาทำ เสี่ยงเชื้อพัฒนาไปเป็นโรคระบาด
ยังมีประเด็นผุดขึ้นให้วิจารณ์บนโลกโซเชียลได้สม่ำเสมอสำหรับพฤติกรรมของบรรดายูทูบเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์หน้าเก่า-ใหม่ ที่คอยผลิตคอนเทนต์โวช์กินของแปลก เปิบพิสดารกันออกมาจนสร้างปมดราม่าร้อนกันได้แบบไม่มีทีท่าจะหยุดหย่อน ถึงขนาดที่เที่ยวนี้จนเกิดคำถาม ค้างคาวกินได้ไหม ? กันเลยทีเดียว
โดยเคสล่าสุดชาวเน็ตไปสำรวจพบความแปลกประหลาดของหญิงสาวรายหนึ่งที่ทำการอัดคลิปวิดีโอขณะที่ตัวเธอเองกำลังลงมือจัดการเมนูค้างคาว โชว์กิน หักปีก หักคอ จิ้มน้ำพริก แถมยังซดน้ำซุปทำลักษณะตคล้ายคนกินของเอร็ดอร่อย
ย้อนกลับไปวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา คลิปของแม่พิมพ์ยุค 4.0 ซึ่งแอบมาสวมบทยูทูบเบอร์สายกินแปลกที่หลังจากบรรเลงเมนูพิสดารจนหนำใจไปแล้ว สาวเจ้าก็สาธยายถึงรสชาติซึ่งอ้างว่า รสนั้นคล้ายกับรับประทานสัตว์จำพวกหนูหรือแมงเม่า แต่มีกลิ่นเฉพาะตัว
นอกจากนี้ในคลิปจะได้ยินเสียงของสาวคนดังกล่าว โชว์เปิดข้อมูล การกินค้างคาวทางแถบอีสานนั้นไม่มีเชื้อโรค อ้างอีกว่า คนที่นี่ซื้อ-ขายและกินกันมานานแล้ว
งานนี้เมื่อชาวเน็ตเจอคอนเทนต์นี้เข้าไป ก็อดไม่ได้ที่จะมาถล่มเสียงวิจารณ์กันระเนระนาด ส่วนใหญ่มองตรงกันว่า เนื้อหาที่ครูผู้หญิงท่านนี้ผลิตออกมา คือ คอนเทนต์หิวแสง ไม่สร้างสรรค์ และพยายามเตือนว่า อย่าหาทำอีก เพราะค้างคาวถือเป็นสัตว์กักตุนเชื้อไวรัสราว 200 ชนิด โดยที่ตัวมันเองไม่มีอาการแสดงอะไร แต่จะเป็นตัวแพร่เชื้อไปยังพาหะตัวกลาง
ขณะที่ หมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ก็ออกมาย้ำเตือนอันตรายจากการกินค้างคาวสัตว์แปลกนี้ด้วยเช่นกัน ระบุ อย่าไปยุ่งกับเจ้าสัตว์ปีกหากินตอนกลางคนชนิดนี้เลย เพราะว่าอาจเสี่ยงที่เชื้อโรคในค้างคาวจะเป็นเชื้อรุนแรง ทำให้เกิดการเสี่ยงติดเชื้อและรุนแรงถึงขั้นพัฒนาไปเป็นโรคระบาดได้ในที่สุด