ข่าว

ลมหนาวปะทะ ‘พายุเนสาท’ อ่อนกำลังลง มาไม่ถึงไทย 16-20 ต.ค.นี้

พายุเนสาทอ่อนกำลัง หลังถูกลมหนาวในไทยสกัด ช่วงวันที่ 16-20 ต.ค. 65 นี้ และจะสลายตัวก่อนขึ้นฝั่งประเทศไทย

จากข้อมูลพยากรณ์อากาศของทางกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่ามวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน แผ่ปกคลุมพื้นที่บริเวณประเทศไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 16-20 ตุลาคม 2565 นี้

Advertisements

ส่งผลให้มวลอากาศเย็นดังกล่าว เข้าปะทะกับพายุเนสาทที่คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งเวียดนามตอนบนในวันที่ 19-20 ตุลาคม 2565 จึงทำให้พายุลูกนี้อ่อนกำลังลงและสลายตัวก่อนจะเข้าสู่บริเวณประเทศไทย เช่นเดียวกับพายุเซินกาที่เพิ่งสลายตัวไปก่อนหน้านี้

แต่อิทธิพลของพายุเนสาทยังคงส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกมากขึ้นในช่วงวันที่ 21 ตุลาคม 2565 โดยจะมีปริมาณฝนตกระดับเล็กน้อยถึงปานกลางในพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศไทย

ทั้งนี้ พายุเนสาทมีศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนหรือที่ละติจูด 19.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 119.9 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีพายุลูกที่ 24 ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยพายุลูกนี้ได้เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกตามเส้นทางเดียวกับพายุเนสาท โดยจะเคลื่อนที่เข้ามาในบริเวณทะเลจีนใต้

ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นในวันที่ 23 ตุลาคม 2565 โดยจะมีปริมาณฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดนครพนม บึงกาฬ หนองคาย มุกดาหาร สกลนคร และกาฬสินธุ์ รวมไปถึงภาคใต้ของประเทศไทย

Advertisements

สรุปแล้วจากการพยากรณ์อากาศของทางกรมอุตุนิยมวิทยา พายุเนสาทไม่เข้าไทย เนื่องจากปะทะกับมวลความเย็นและสลายตัวก่อนที่จะมาถึงประเทศไทย เพียงแต่อิทธิพลของพายุอาจทำให้มีฝนตกหนักในบางพื้นที่

สนใจลงโฆษณา บทความ Backlink กับ Thaiger ติดต่อคุณโอ๋ orakarn@thethaiger.com

Mothana

นักเขียนข่าวที่ Thaiger การศึกษาทางด้านภาษา จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จึงรับหน้าที่เขียนบทความไลฟ์สไตล์บันเทิง เศรษฐกิจ อยากเป็นสื่อกลางคอยขุดคุ้ยประเด็นตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงใหญ่โตมาเขียนให้ทุกคนได้อ่าน เพราะมีความเชื่อว่าสื่อที่ดีย่อมเป็นหนทางนำผู้อ่านไปสู่งานเขียนที่ดีได้ ติดต่อได้ทาง tangmo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button