ทนายเกิดผล โพสต์เตือน ขับรถน้ำกระเด็นใส่ผู้อื่น เสี่ยงโทษปรับ 10,000 บาท กรณีตั้งใจอาจเข้าข่ายผิดฐานทำเสียทรัพย์ มาตรา 358 โทษจำคุกไม่ เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากกรณีโลกโซเชียลพากันแห่แชร์ภาพความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วม โดยนอกจากเรื่องของกระแสน้ำที่ทำลายข้าวของเสียหายแล้ว ล่าสุดยังพบว่าได้เกิดมีกรณีปัญหาของผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะ โดยเฉพาะรถยนต์ที่มีการพฤติกรรมจงใจขับลุยน้ำท่วมกระทั่งบางเคสสร้าสงวคามเดือดร้อนให้กับคนที่อยู่บ้าทาง ต้องได้รับผลกระทบจากการขับขี่ที่จงใจทำน้ำกระเด็นใส่จนสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สิน ตลอดจนความเดือดในด้านอื่นๆที่ตามมา
ล่าสุด วันนี้ (4 ต.ค.65) ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายคนดัง ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านบัญชีโซเชียลของตัวเอง โดยเป็นการโพสต์ให้ข้อมูลในแง่ของข้อกฎหมายที่หากมีผู้ขับขี่ท่านใดจงใใจหรือเจตนา ขับรถสาดน้ำใส่ หรือ ขับรถให้นำ้ระเด็นใส่ผู้อื่น อาจเข้าข่ายมีวคามผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ โทษปรับไม่เกิน 6 หมื่น จำจุกไม่เกิน 3 ปี
ข้อความจากโพสต์ชของทนายเกิดผล ระบุดังนี้ ” ผู้ขับขี่ที่ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (จากอัตราโทษเดิม จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท) ”
” และ ถ้าเป็นการตั้งใจหรือเจตนาจะขับรถสาดน้ำใส่ ก็เป็นความผิด ฐานทำให้เสียทรัพย์ ตามมาตรา 358 ที่กล่าวไว้ว่า ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่ เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ด้วย ”
ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (8) ระบุ “ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
และถ้าหากน้ำที่กระเด็นใส่ทำให้ทรัพย์สินจะมีโทษปรับสูงสุด 6,000 บาท หรือจำคุกสูงสุดถึง 3 ปี หรือ อาจจะโดนโทษทั้งจำทั้งปรับเลยก็ได้ครับ รู้แบบนี้แล้วควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถช่วงฤดูฝนให้มากขึ้นนะครับ
ที่มา : สำนักงานกิจการยุติธรรม
