‘พายุโนรู’ ทวีกำลังเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น หวั่นกระทบอีสานหนักกว่าเดิม
เกิดคาด พายุโนรู ทวีกำลังรุ่นแรงขึ้นเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 4 หลังเจอความร้อนชื้นในทะเลจีนใต้ เตือนภาคอีสานทั้งภาครับมือฝนตกหนักมาก และอาจหนีไม่พ้นน้ำท่วมใหญ่
หลังกรมอุตุนิยมวิทยามีประกาศแจ้งเตือน “พายุโนรู” กำลังจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงวันที่ 27-29 กันยายน 2565 นี้ โดยในตอนแรกได้มีการคาดการณ์ไว้ว่าเมื่อพายุเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้วจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น
แต่ล่าสุดทาง ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ จากคณะประมง จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความกังวลเกี่ยวกับการยกระดับความรุนแรงของพายุโนรู ผ่านทางเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ว่าสาเหตุที่ทำให้พายุโนรูมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 4 นั้นมาจากอุณหภูมิของน้ำในทะเลจีนใต้ที่พุ่งสูงขึ้น
พร้อมทั้งเตือนประชาชนคนไทย โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ให้เฝ้าระวังและไม่ประมาทต่อการมาเยือนของพายุโนรูในครั้งนี้ ความว่า
“ดูภาพดาวเทียมล่าสุดของไต้ฝุ่นโนรูแล้วเริ่มหนักใจ พายุทวีกำลังมากขึ้นในทะเลก่อนเข้าสู่ชายฝั่งเวียดนาม
เหตุผลสำคัญคือน้ำทะเลในทะเลจีนใต้ร้อน ผมดูจากข้อมูลทุ่นกระแสสมุทรและจากที่อื่นๆ ช่วงนี้อยู่ที่ 29-30 องศา
น้ำร้อนมีผลโดยตรงกับไต้ฝุ่น น้ำยิ่งร้อนยิ่งส่งพลังงานให้พายุแรงขึ้น
น้ำร้อนยังทำให้ไอน้ำมากขึ้น ฝนย่อมมีมากขึ้นเป็นธรรมดา
เวียดนามเพื่อนบ้านเราเตรียมตัวแล้ว ของเขาเจอเต็มๆ ต้องอพยพกันยกใหญ่
แต่เราก็ประมาทไม่ได้เพราะคงเจอฝนหนักในบริเวณกว้าง จะอพยพล่วงหน้านานๆ ก็ยากหน่อยเพราะเดาไม่ถูกว่าตกกระหน่ำตรงไหนบ้าง ต้องใช้การเฝ้าระวังและเตือนภัยในช่วงสั้นๆ
เพราะฉะนั้น จึงอยากให้เพื่อนธรณ์เตรียมตัวไว้ โดยเฉพาะในพื้นที่คาดว่าฝนหนัก เช่น ภาคอีสาน ภาคเหนือตอนล่าง ฯลฯ ที่คงตามข่าวจากหลายช่องทางได้
ใครอยู่ในที่เสี่ยง เช่น ใกล้แม่น้ำลำคลอง ใกล้ทางน้ำที่ลงมาจากเขา ต้องเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้า น้ำป่ามาเร็วครับ
ดินถล่มยังเป็นอีกภัยต้องระวัง ใครอยู่ริมทางชัน ร่องเขา เตรียมตัวให้พร้อม
การเตรียมตัวให้มากที่สุดเป็นเรื่องสมควร ต่อให้ไม่เกิดอะไรก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิด เรารอดได้เพราะการเตรียมตัวนี่แหละครับ
หลักการง่ายๆ ของการบริหารความเสี่ยงคือ Worst-case scenario คิดในทางเลวร้ายที่สุดเข้าไว้
น้ำทะลักเข้าบ้าน รถเราจะจมไหม ไฟฟ้าดูดไหม เด็กเล็กคนแก่ไปอยู่ไหน เรามีน้ำกินข้าวกินหลายวันหรือไม่ ไฟดับทำไง มือถือชาร์จเต็มไหม ทางขาดต้องติดอยู่หลายวันเอาไงดี ฯลฯ
ยังรวมถึงการบอกคนอื่นว่าเราอยู่ไหน เกิดอะไรจะติดต่อกันได้ ช่วยกันทัน โดยเฉพาะคนที่ไม่อยู่บ้าน ไปเที่ยวเข้าป่า ฯลฯ ต้องบอกให้คนอื่นทราบ
ยังมีอีกหลายเรื่องที่ทำได้ โดยเริ่มจากนั่งนิ่งๆ แล้วค่อยๆ คิด worst-case ที่อาจเกิดกับเรา ลองลิสต์ไว้เป็นข้อๆ ก็ได้ครับ แล้วค่อยให้น้ำหนักว่าอะไรสำคัญกว่ากัน
ที่สำคัญ ในยุคโลกร้อน สภาพภูมิอากาศสุดขั้ว อย่าเอาอดีตมาตัดสินปัจจุบัน เพราะที่โดนกันก็ได้แต่บอกว่าไม่เคยพบเคยเห็น
climate change ชื่อก็บอกแล้วว่ามันเปลี่ยน มันไม่เหมือนเดิม มันถึงเป็นปัญหาครับ
มองโลกในแง่ร้าย เป็นเรื่องที่ผมทำเป็นประจำ ทำมาหลายสิบปีแล้ว เพราะเรื่องนี้สำคัญมากหากเราต้องคุมทริปสำรวจทะเลที่ต้องรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดนานัปการ
ในกรณีของภัยพิบัติ มองให้ยิ่งร้ายยิ่งดี และสำคัญสุด ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน รอบคอบไว้ล่วงหน้า ยังพอมีเวลาให้คิดให้เตรียมตัวอีกวันสองวัน
เป็นกำลังใจให้เพื่อนธรณ์ทุกท่านครับ
ภาพตอน 23.45 น. วันที่ 26 กย.”
นับว่าสถานการณ์พายุโนรูที่กำลังจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยนั้นน่ากังวลเป็นอย่างมาก แม้ว่าพายุไต้ฝุ่นโนรูจะลดกำลังลงเมื่อเดินทางเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยก็ตาม แต่อิทธิพลของพายุก็ยังนับว่ารุนแรงและอาจเข้าขั้นวิกฤตได้ หากภาครัฐและภาคประชาชนไม่ได้เตรียมการรับมือไว้ให้พร้อม