ประชาชนแห่แลกเงินดอลลาร์เป็นเงินไทย หลังค่าเงินบาทอ่อนตัวทะลุ 37.37
สุดคึกคัก ! ประชาชนเข้าแถว แลกเงินดอลลาร์เป็นเงินไทย เก็งกำไรจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัว 1 ดอลลาร์ได้เงินสูงถึง 37.37 บาทในวันนี้
ยังคงน่าเป็นห่วงสำหรับค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 22 กันยายน 2565 พบค่าเงินบาททะลุ 37.37 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้อัตราการแลกเปลี่ยนเงินผันผวนหนัก ส่งผลกระทบเชิงลบต่อผู้ถือเงินบาท สวนทางผู้ถือเงินดอลลาร์ที่รอแลกเงินในประเทศไทย
ท่ามกลางข่าวเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างหนัก กลับพบมีกลุ่มคนบางส่วนที่ถือเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ได้รับผลกระทบเชิงบวก ซึ่งมาจากการเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา โดยมีผู้คนที่ถือเงินดอลลาร์เข้าแถวรอแลกเงินเป็นเงินบาทแน่นในหลายร้านแลกเงินทั่วกรุงเทพ
สำหรับแนวทางในการเก็งกำไรจากเงินบาทที่อ่อนค่าลง สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการแลกเงินบาทเป็นเงินดอลลาร์ในตอนที่เงินบาทแข็งตัว เช่น นำเงิน 10,000 บาทไปแลกเป็นเงินดอลลาร์ในตอนที่ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.5 จะได้รับเงินดอลลาร์กลับมาในจำนวน 289.8 เหรียญ
จากนั้นเมื่อค่าเงินบาทอ่อนตัวลง อ้างอิงจากราคาในปัจจุบันคือ 37.37 ผู้ถือเงินดอลลาร์ก็จะสามารถนำเงินไปแลกกลับมาเป็นเงินไทย พร้อมกำไรได้ โดยเงินดอลลาร์จำนวน 289.8 เหรียญ จะได้รับกลับมาเป็นเงินไทยราว 10,829.8 บาทนั่นเอง
นอกจากนี้แล้ว การที่ค่าเงินบาทอ่อนตัวอย่างหนัก ยังส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจด้านการส่งออกอีกด้วย เนื่องจากการนำสินค้าไปขายในต่างประเทศ จะสามารถนำเงินดอลลาร์กลับมาแรงเป็นเงินไทยได้มากขึ้น เช่น สินค้าราคา 10 ดอลลาร์ จากเดิมที่เคยแลกเป็นเงินไทยได้ 345 บาท หากแลกในตอนนี้จะได้เงินราว 373 บาทเลยทีเดียว
ทั้งนี้แม้จะมีผู้ได้กำไรจากการแลกเงินดอลลาร์มาเป็นเงินไทย แต่ในทางกลับกัน ผู้ที่ต้องการแลกเงินไทยเป็นเงินดอลลาร์กลับเจอวิกฤตขาดทุน เนื่องจากต้องใช้เงินไทยในจำนวนที่มากขึ้น เพื่อแลกเป็นเงินดอลลาร์
นับได้ว่าวิกฤตเงินบาทอ่อนค่าในตอนนี้ กลายเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องจับตามองต่อไปอย่างใกล้ชิด เพราะค่าเงินที่อ่อนตัวไม่ได้กระทบต่อการแลกเปลี่ยนเงินตราเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อราคาของกินและของใช้ซึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศอีกด้วย.