สรุปดราม่า #ฝึกงานแบไต๋ หลัง หนุ่ย พงศ์สุข โพสต์เฟซบุ๊กเล่าเรื่องเด็กฝึกงานไม่ยอมทักทายคนในบริษัท แต่กระแสตีกลับจนติดเทรนด์อันดับ 1 ในทวิตเตอร์ ล่าสุดออกมาโพสต์ขอโทษแล้ว
กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงมากที่สุดดในโลกออนไลน์ เมื่อล่าสุด 2 กันยายน 2565 แฮชแท็ก #ฝึกงานแบไต๋ กลายเป็นเทรนด์อันดับ 1 ในทวิตเตอร์ เนื่องจาก “หนุ่ย พงศ์สุข” CEO เว็บไซต์ไอทีชื่อดังอย่าง beartai.com ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องเด็กฝึกงานที่ไม่ยอมทักทายคนในบริษัท แต่ถูกกระแสชาวเน็ตตีกลับ ทำให้ต้องออกมาขอโทษในที่สุด
สรุปดราม่า #ฝึกงานแบไต๋ เด็กฝึกงานไม่ทักทายคนในบริษัท แต่กลับถูกประจานในออนไลน์
– เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 หนุ่ย-พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ CEO แบไต๋ ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ถึงเรื่องการหยุดรับนักศึกษาฝึกงานเข้ามาฝึกงานในบริษัทเป็นการชั่วคราว
– ในเนื้อหาที่ หนุ่ย พงศ์สุข โพสต์ไว้มีใจความว่า นักศึกษาฝึกงานในบริษัท 2 คน แม้จะรับผิดชอบภาระงานของตัวเองได้ดี แต่มีนิสัยที่สันโดษ ไม่ยอมทักทายคนอื่น ๆ ในบริษัท โดยหนุ่มกล่าวว่า “น้องไม่ทักใครเลยในออฟฟิศ”
– แม้จะมีการพยายามสร้างบรรยากาศให้นักศึกษาฝึกงานทั้ง 2 คน มีส่วนร่วมในการทักทายคนอื่น ๆ ในออฟฟิศแล้วก็ยังไม่เป็นผล ทำให้ หนุ่ย พงศ์สุข ต้องออกมาพูดถึงปัญหาดังกล่าวในที่ประชุม
– ต่อมาอาจารย์ที่ปรึกษาของนักศึกษาฝึกงานทั้ง 2 คน โทรมาหาทางแบไต๋เพื่อขอบคุณที่ให้ความอนุเคราะห์รับนักศึกษาเข้าไปฝึกงาน ซึ่งทางบริษัทก็ได้ใช้โอกาสนั้นเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้อาจารย์ที่ปรึกษาฟัง
– อาจารย์ที่ปรึกษากล่าวว่านักศึกษาที่เข้าไปฝึกงานมี “2 บุคลิก” ตั้งแต่ที่เรียนอยู่ในสถาบันแล้ว อีกทั้งยังเล่าต่อไปว่าในห้องเรียนนักศึกษาจะพูดคุยกับครูผู้สอนตามปกติ แต่เมื่อจบคลาสก็โพสต์ด่าครูผ่านทางเฟซบุ๊ก
– ทางบริษัทกล่าวกับอาจารย์ที่ปรึกษาว่าไม่ได้ตัดสินใจยุติการฝึกงาน เพราะนักศึกษาทั้ง 2 คน รับผิดชอบภาระงานได้ดี แต่มารยาททางสังคมนั้นสอบตก ทางอาจารย์จึงขอโอกาสคุยกับนักศึกษาก่อน และวอนให้บริษัทไม่ขึ้น Blacklist กับทางสถาบัน
– นอกจากนี้ หนุ่ย พงศ์สุข ยังเล่าอีกว่า ในช่วงพักกลางวันได้ลองเรียกนักศึกษาฝึกงานทั้ง 2 คน ให้หยุดทักทายกันที่โต๊ะอาหาร โดยนักศึกษาชายหยุดทักทาย แต่ทางนักศึกษาหญิงแยกตัวเดินผ่านไป เหมือนเห็นหนุ่ย “เป็นอากาศ”
– หนุ่ย พงศ์สุข จึงได้เรียกนักศึกษาฝึกงานผู้หญิงให้หยุดทักทายกันก่อน โดยใช้คำเรียกว่า “น้องสาว” และถึงแม้จะเรียกนักศึกษาฝึกงานทั้งคู่ให้หยุดทักทาย และพยายามทำความเข้าใจให้นักศึกษาฝึกงานทักทายคนตนเองบ้าง แต่กลับได้รับข้อแก้ตัวมาว่า “มองเห็นไม่ชัด จึงไม่ได้ทัก”
– หลังจากนั้น หนุ่ย พงศ์สุข ก็ได้ขอเบอร์โทรอาจารย์ที่ปรึกษาจาก COO (Chief Operation Officer) ที่รายงานความคืบหน้าของการฝึกงานให้ทางสถาบันไปก่อนหน้านี้ เพื่อที่จะโทรไป “เซอร์ไพรส์” แต่ทาง COO ก็ได้แนะนำว่า “ไม่ควรไปตัดอนาคต” นักศึกษาทั้งสอง
– อย่างไรก็ตาม หนุ่ย พงศ์สุข ได้กล่าวว่าตนนั้นยึดหลัก “สอนซะก่อนสาย” เพื่อไม่ให้ใครออกไปเผชิญสังคมโดยที่มารยาทสังคมนั้นยังไม่ผ่าน แต่จากหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้หนุ่ยยอมถอดใจ เพราะคิดว่า “สอนไปก็ไม่ช่วย”
– ท้ายโพสต์ หนุ่ย พงศ์สุข กล่าวว่า ขอเฝ้ามองคนรุ่นใหม่ด้วยความตื่นตาตื่นใจต่อไป และหวังว่าคงจะไม่เจอโพสต์ด้านมืดของนักศึกษาฝึกงานในทวิตเตอร์ เพราะในโพสต์ดังกล่าวไม่ได้เอ่ยพาดพิงถึงใคร
– หลังจากที่ หนุ่ย พงศ์สุข ได้โพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ก็ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ต่อประเด็นนี้กันอย่างมากมาย จนกลายเป็นดราม่าว่าสิ่งที่หนุ่ยทำ คือการเอาเรื่องของนักศึกษาฝึกงานมาโพสต์ในเฟซบุ๊ก ถือเป็นการประจานในที่สาธารณะ
– นอกจากนี้หลายคนยังมองว่า การที่หนุ่ยเรียกนักศึกษาฝึกงานผู้หญิงว่า “น้องสาว” เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ดูไม่ให้เกียรติ และควรจะเรียกคนอื่นด้วยชื่อมากกว่า ทั้งนี้บางคนก็ตั้งข้อสงสัยว่าเป็นซีอีโอแต่ทำไมไม่เรียกคนอื่นด้วยชื่อ หรือจำชื่อนักศึกษาฝึกงานไม่ได้
– ล่าสุด หลังจากที่ถูกระแสตีกลับจากชาวเน็ต จึงทำให้ หนุ่ย พงศ์สุข ออกมาโพสต์ขอโทษผ่านเฟซบุ๊กต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าสิ่งที่ตนทำนั้นเป็นเรื่องไม่เหมาะสม และหลังจากที่ได้อ่านคอมเมนต์ของชาวเน็ตก็ตกตะกอนความคิดได้ว่า คนแต่ละเจนโตมาในบริบทที่ต่างกัน
– ทั้งนี้ หนุ่ย พงศ์สุข ก็ได้เรียกนักศึกษาฝึกงานทั้ง 2 คน มากล่าวขอโทษต่อหน้าในนามของบริษัท และทำบันทึกภายในส่งในกลุ่มไลน์พนักงานบริษัทเพื่อเป็นการแสดงความขอโทษจากใจจริง พร้อมกับกล่าวยอมรับว่าการที่ตัวเขาเองถูกประจานในทวิตเตอร์ก็เป็นสิ่งที่สมควรได้รับแล้วเช่นกัน.